BM เปิดงบ Q1/67 โชว์รายได้ทะลุ 371.78 ล้านบาท เติบโต 18.80% รับรู้ยอดคำสั่งซื้องานต่างประเทศเพิ่มขึ้น วางเป้ารายได้รวมโต 10% จากปีก่อน พร้อมดัน Backlog แตะ 1,700 ล้านบาท
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทมีรายได้รวม 371.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.83 ล้านบาท หรือ 18.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 312.95 ล้านบาท จากคำสั่งซื้องานส่งออกต่างประเทศเพิ่มขึ้น และมีการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ของบริษัทนิตโต้ โคเกียว บีเอ็ม (ประเทศไทย) จํากัด จำนวน 4.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.23 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานที่เติบโตแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งเกิดจากความสามารถในการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกสินค้า ในเขตพื้นที่ปลอดอากร (Free Zone) เฟสแรก ภายหลังจากลูกค้ามีคำสั่งซื้อในส่วนงานส่งออกต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นายธานิน กล่าวเพิ่มเติมถึงทิศทางธุรกิจในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 สะท้อนจากยอดออเดอร์ที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 ระหว่างเดือน (ม.ค.-เม.ย.) ยอดส่งออกพุ่งกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ช่วยให้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มสูงขึ้น หนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เติบโต
“ปี 2567 บริษัทยังคงวางเป้ารายได้รวมโต 10% จากปีก่อน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจโลก รวมถึงการมองหาพาร์ตเนอร์ต่างประเทศเพื่อต่อยอดธุรกิจส่งออก ในฐานะ BM เป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตสินค้า ในกลุ่มงานรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า, กลุ่มงานผลิตตู้โลหะ, กลุ่มงานตู้สวิตช์บอร์ด, กลุ่มงานเชื่อมประกอบ, กลุ่มงานเครื่องมือและเครื่องจักรกล, กลุ่มงานผลิตชิ้นส่วนให้กับคูโบต้า, กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์โลหะ และอื่นๆ ตลอดจนการขยายตลาด และลูกค้าใหม่ๆ เพิ่ม ช่วยหนุน Backlog แตะ 1,700 ล้านบาท” นายธานิน กล่าว
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทมีรายได้รวม 371.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.83 ล้านบาท หรือ 18.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 312.95 ล้านบาท จากคำสั่งซื้องานส่งออกต่างประเทศเพิ่มขึ้น และมีการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ของบริษัทนิตโต้ โคเกียว บีเอ็ม (ประเทศไทย) จํากัด จำนวน 4.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.23 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานที่เติบโตแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งเกิดจากความสามารถในการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกสินค้า ในเขตพื้นที่ปลอดอากร (Free Zone) เฟสแรก ภายหลังจากลูกค้ามีคำสั่งซื้อในส่วนงานส่งออกต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นายธานิน กล่าวเพิ่มเติมถึงทิศทางธุรกิจในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 สะท้อนจากยอดออเดอร์ที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 ระหว่างเดือน (ม.ค.-เม.ย.) ยอดส่งออกพุ่งกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ช่วยให้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มสูงขึ้น หนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เติบโต
“ปี 2567 บริษัทยังคงวางเป้ารายได้รวมโต 10% จากปีก่อน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจโลก รวมถึงการมองหาพาร์ตเนอร์ต่างประเทศเพื่อต่อยอดธุรกิจส่งออก ในฐานะ BM เป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตสินค้า ในกลุ่มงานรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า, กลุ่มงานผลิตตู้โลหะ, กลุ่มงานตู้สวิตช์บอร์ด, กลุ่มงานเชื่อมประกอบ, กลุ่มงานเครื่องมือและเครื่องจักรกล, กลุ่มงานผลิตชิ้นส่วนให้กับคูโบต้า, กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์โลหะ และอื่นๆ ตลอดจนการขยายตลาด และลูกค้าใหม่ๆ เพิ่ม ช่วยหนุน Backlog แตะ 1,700 ล้านบาท” นายธานิน กล่าว