The IPO

“โอ้กะจู๋” ร้านอาหารสุขภาพ พร้อมเติบโตไปกับ OR


21 พฤษภาคม 2567
TOT แนวนอน “โอ้กะจู๋” ร้านอาหารสุขภาพ_0.jpg

เร็วๆ นี้ตลาดหุ้นไทยกำลังจะมีอีกหนึ่งธุรกิจอาหารเข้าจดทะเบียน อย่างบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้คอนเซ็ปท์ “Be Organic from Farm to Table”


รวมถึงบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ โดยเน้นการปลูกผัก ผลไม้ แบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) และนำเสนออาหารและเครื่องดื่มจากวัตถุดิบหลักที่เป็นอินทรีย์ที่มีคุณภาพ

จุดเริ่มต้นของ OKJ จากผู้ร่วมก่อตั้ง ได้แก่ นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล (อู๋) และนายจิรายุทธ ภูวพูนผล (โจ้) ซึ่งมีความสนใจในการผสมผสานเกษตรสมัยใหม่กับวิธีการเกษตรแบบดั้งเดิมเข้าด้วยกัน 

ประกอบกับการเติบโตมาจากครอบครัวที่ประกอบอาชีพเกษตรกร จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรร่วมกัน และเริ่มทำแปลงผักครั้งแรกในช่วงปี 2553
โดยมีอุดมการณ์หลัก คือ การปลูกผักแบบเกษตรอินทรีย์ วิถีธรรมชาติ ผ่านการออกแบบ และจัดการฟาร์มโดยที่ไม่พึ่งพาสารเคมีใดๆ คำนึงถึง ผืนดิน ผลิตผล ระบบนิเวศ ครอบครัว และชุมชน 

เริ่มจากปลูกผักสวนครัวทั่วไป และผักสลัดบางชนิด ผลผลิตที่ได้ก็จะนำไปประกอบอาหารรับประทานกันในครอบครัว ด้วยเหตุผลที่ว่า บริษัทอยากให้คนในครอบครัวมีสุขภาพดีไม่อยากให้ครอบครัวได้รับสารพิษและสารเคมีตกค้าง

จึงเป็นที่มาของสโลแกน “ปลูกผักเพราะรักแม่” และนำชื่อของผู้ร่วมก่อตั้ง “อู๋กะโจ้” มาเป็นชื่อแบรนด์ “โอ้กะจู๋” และเริ่มเปิดร้านอาหารสาขาสันทรายเป็นสาขาแรกในปี 2556

นอกจากนี้ นายวรเดช สุชัยบุญศิริ (ต้อง) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ได้นำความรู้ด้านเครื่องจักรทางการเกษตร การสร้างโรงเรือน และวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ มาพัฒนาให้บริษัทสามารถสร้างผลผลิตได้ในปริมาณที่มากขึ้น และมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และทำให้สามารถขยายพื้นที่เพาะปลูก และขยายธุรกิจให้เติบโตได้จนถึงทุกวันนี้

โดย ณ วันที่ 2 เมษายน 2567 บริษัทมีสวนปลูกผักผลไม้ทั้งหมด 5 สวน ในจังหวัดเชียงใหม่ บนพื้นที่รวมประมาณ 380 ไร่ มีร้านอาหารภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ในรูปแบบ Full-service Restaurant จำนวน 30 สาขา รูปแบบ Delivery and Kiosk จำนวน 4 สาขา

รวมทั้งมีการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในร้าน Café Amazon กว่า 300 สาขา และมีการนำผลผลิตจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตจำนวน 9 สาขา 

อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการเริ่มประกอบธุรกิจร้านอาหารประเภทจานด่วน (QSR) ภายใต้แบรนด์ Ohkajhu Wrap & Roll และธุรกิจร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ Oh Juice ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการช่วงไตรมาส 2/2567

ความน่าสนใจของ OKJ คือมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR โดยบริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยที่ OR ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท พีทีที โออาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ในสัดส่วน 100% ซึ่งภายหลังเข้าตลาดหุ้น บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด จะถือหุ้นจำนวน 121,800,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน20% จากเดิมถือจำนวน 90 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20%

โดยบริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด จะซื้อหุ้นสามัญเดิมบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) จากผู้ร่วมก่อตั้งจำนวนรวม 31,800,000 หุ้น คิดเป็น 5.2% ในราคาเดียวกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ ในวันแรกที่หุ้นบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 

ที่ผ่านมา บริษัทฯ ใช้ข้อได้เปรียบทางในการแข่งขันจากการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม OR ในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับ OR และนำสินค้าไปจำหน่ายในร้าน Café Amazon 
โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ วางจำหน่ายในร้าน Café Amazon จำนวนประมาณ 300 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดในภาคตะวันออก โดยบริษัทฯ มีกลยุทธ์ในการเติบโตผ่านการนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายในร้าน Café Amazon เพิ่มเติม 

สำหรับการร่วมมือกับ OR ช่วยทำให้บริษัท มีโอกาสเข้าถึงพื้นที่ที่มีศักยภาพ ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station ซึ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station จำนวนกว่า 2,600 สาขา ทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งร้านอาหารสาขาใหม่ได้ โดยที่ตั้งของสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่ติดถนนใหญ่ มีการสัญจรไปมาและเข้าถึงได้สะดวก ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญของธุรกิจของบริษัทฯ 

อีกทั้งมีโอกาสเข้าถึงเครือข่ายผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันของ OR (Dealer) จำนวนมาก ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัท แลกเปลี่ยนความรู้ในการทำธุรกิจ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขยายสาขาร้านอาหารใหม่ๆ ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ แบรนด์โอ้กะจู๋เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และเป็นแบรนด์ชั้นนำ ในกลุ่มร้านอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคนทุกวัย รวมทั้งร้านอาหารสำหรับครอบครัว มีรูปแบบร้านอาหารและช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมได้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า

ขณะเดียวกันยังมีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และเป็นผู้นำในการสร้างเทรนด์ผลิตภัณฑ์ และเมนูเพื่อสุขภาพที่แปลกใหม่ (Trend setter) มีความเชี่ยวชาญในการทำเกษตรอินทรีย์ และมีการวางระบบเกษตรอินทรีย์ที่สามารถพัฒนาและรองรับการเติบโตในอนาคตได้

อีกทั้งมีความสามารถในการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่า (Value chain) ที่สามารถควบคุมคุณภาพ ต้นทุน และเวลาในการผลิตและการขนส่งได้ ทีมผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมถึงการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม OR

นอกจากนี้ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ยังอยู่ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีการเติบโตสูง โดยตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฐานประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น 

เห็นได้จาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2567 มูลค่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในประเทศไทยจะมีมูลค่าประมาณ 34,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 6% ต่อปี ในช่วงปี 2568 – 2570 เป็นผลมาจากการขยายตัวของฐานประชากรผู้สูงอายุประมาณ 4.5% ต่อปี 

ขณะที่ค่าใช้จ่ายอาจเติบโตได้ประมาณร้อยละ 1.5 ต่อปี จากกำลังซื้อของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่ไม่ได้สูงมาก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุจึงมีแนวโน้มเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดังนั้นต้องจับตากันดูว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นครั้งนี้ของ OKJ จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ OR ได้ส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อบิ๊กล็อตในวันแรกที่เข้าซื้อขาย ในราคาไอพีโอ เพื่อคงสัดส่วนการถือหุ้น ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกนี้


“โอ้กะจู๋” ร้านอาหารสุขภาพ พร้อมเติบโตไปก.jpg