อัปเดต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. (PEA) ประกาศล่าสุด ลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนลดภาระค่าใช้จ่าย ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง สิงหาคม 2567 เช็กเงื่อนไขที่นี่
"กรุงเทพธุรกิจ" อัปเดต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. (PEA) ประกาศล่าสุด ลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชน ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง สิงหาคม 2567
วันนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ประกาศแจ้งมาตรการลดค่าไฟฟ้า ตามมติคณะรัฐมนตรี ครม. เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
- ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 19.05 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน
- ตั้งแต่ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2567
ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1129 PEA Contact Center ตลอด 24 ชั่วโมง
มาตรการลดค่าไฟฟ้า งบ 1,800 ล้าน
ก่อนหน้านี้ นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (7 พฤษภาคม 2567) มีมติให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) ได้นำเสนอ
และมอบหมายให้ พน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวตามอำนาจและหน้าที่ โดยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน เป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดลงในเดือนเมษายน 2567 เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ สรุปสาระสำคัญดังนี้
1. ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ระยะเวลาดำเนินการ 20 เม.ย. – 31 ก.ค. 2567
2. ตรึงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 423 บาท/ถังขนาด 15 กก. ระยะเวลาดำเนินการ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567
3. ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 19.05 สตางค์/หน่วย แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ระยะเวลาดำเนินการ พ.ค. – ส.ค. 2567 (4 เดือน)
ทั้งนี้ พน. คาดว่าจะใช้งบฯ สำหรับดำเนินทั้ง 3 มาตรการ รวมทั้งสิ้น 8,300 ล้านบาท ประกอบไปด้วย
- มาตรการด้านน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 6,500 ล้านบาท
- ช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันดีเซลจำนวน 6,000 ล้านบาท
- ช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้ก๊าซ LPG จำนวน 500 ล้านบาท
- มาตรการด้านไฟฟ้า จำนวน 1,800 ล้านบาท
โดย ในที่ประชุม ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้การดำเนินการของมาตรการดังกล่าวพิจารณาใช้งบประมาณจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก่อน ในส่วนที่เหลือค่อยขอรับจัดสรรจากงบฯ ปี 2567 งบกลาง ในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1128102