Talk of The Town
3 หุ้นใหญ่กลุ่มสื่อทีวี อาการหนัก โบรกฯ รุมหั่นราคาเป้าหมาย-ลดคำแนะนำ เหตุเม็ดเงินโฆษณาวูบ ฉุดงบกำไรดิ่ง
24 พฤษภาคม 2567
หลังจากที่ 3 บริษัทใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ได้แก่ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK และบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/67 แล้วพบว่ามีกำไรสุทธิที่ไม่โดดเด่น ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากเม็ดเงินค่าโฆษณาที่ลดลง
[WORK โดนหั่นราคาเป้าหมาย]
โดย นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีมุมมองเป็น Negative ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ของ WORK หลังจากประกาศผลการดำเนินงานมีกำไรสุทธิ ที่ 9 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 72% จากรายได้ค่าโฆษณาลดลงมากกว่าคาด ซึ่งกำไรของ WORK ลดลงกว่า 69% จากปีก่อน
สำหรับคาดรายได้ค่าโฆษณาในช่วงไตรมาส 2/67 ของ WORK จะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนตามฤดูกาล และยังมีส่วนแบ่งกำไรจากภาพยนตร์ “อนงค์” ที่ร่วมผลิตกับ MAJOR เข้ามาช่วยหนุน ซึ่งเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 จะอยู่ที่ระดับ 26 ล้านบาท ลดลง 46% จากปีก่อน แต่จะเพิ่มขึ้น 189% จากไตรมาสก่อน
ดังนั้นจึงเปลี่ยนคำแนะนำเป็น Reduce (จากเดิม Neutral) และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567 เป็น 7.70 บาทจากเดิม 9.65 บาท
[ONEE โบรกฯ ลดคำแนะนำเป็น “ขาย”]
ขณะที่ บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ปรับลดคำแนะนำ ONEE เป็น “ขาย” (จาก ซื้อ) เนื่องจาก
1) อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงเชิงโครงสร้าง และเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ (adex) ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้
2) การขายคอนเทนต์ของ ONEE ยังเผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่งที่แข็งแกร่งในภูมิภาค 3) ONEE มีกำไรไตรมาส 1/67 อ่อนแอที่เพียง 31 ล้านบาท ลดลง 41% จากปีก่อน และ 83% จากไตรมาสก่อน
โดยปรับลดประมาณการกำไรของเราลงอีก 23/26/41% ในปี 67-69 และปรับราคาเป้าหมาย (ปีฐาน 67) เหลือ 3.2 บาท (จาก 6 บาท) และ 4) เรามองว่า ONEE นั้นแพง โดยซื้อขายที่ PE ที่ 18 เท่า ในปี 67 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 22 เท่า ในปี 68 เนื่องจากแนวโน้มกำไรที่ลดลง -5/-16/-23% ในปี 67-69
ซึ่ง ROE ที่ต่ำเพียง 4-7% ยังทำให้ PE ดูแพงในมุมมองของเรา เราได้รวมผลกระทบเชิงบวกจากนโยบาย digital wallet ของรัฐบาลในประมาณการแล้ว
[BEC กำไรต่ำคาด 80%]
ด้านบล.กรุงศรี ระบุว่าแนะนำ Neutral หุ้น BEC โดยให้ราคาเป้าหมาย 4.94 บาท เนื่องจากมอง Negative ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 14 ล้านบาท ต่ำกว่าเราและตลาดคาด -38% และ -80% ตามลำดับ
จากรายได้ค่าโฆษณาต่ำกว่าคาด ขณะที่กำไรฟื้น 278% จากปีก่อน จากฐานต่ำและเป็นการโตจากรายได้อื่นๆ แต่ลด -85% จากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล
ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/67 จะฟื้น ตามฤดูกาล และงวดครึ่งหลังปี 67 มีปัจจัยหนุนจากหนัง “ธี่หยด2” เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น Neutral (เดิม Trading Buy) และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 4.94 บาท (เดิม 5.35 บาท)
[WORK โดนหั่นราคาเป้าหมาย]
โดย นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีมุมมองเป็น Negative ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ของ WORK หลังจากประกาศผลการดำเนินงานมีกำไรสุทธิ ที่ 9 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 72% จากรายได้ค่าโฆษณาลดลงมากกว่าคาด ซึ่งกำไรของ WORK ลดลงกว่า 69% จากปีก่อน
สำหรับคาดรายได้ค่าโฆษณาในช่วงไตรมาส 2/67 ของ WORK จะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนตามฤดูกาล และยังมีส่วนแบ่งกำไรจากภาพยนตร์ “อนงค์” ที่ร่วมผลิตกับ MAJOR เข้ามาช่วยหนุน ซึ่งเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 จะอยู่ที่ระดับ 26 ล้านบาท ลดลง 46% จากปีก่อน แต่จะเพิ่มขึ้น 189% จากไตรมาสก่อน
ดังนั้นจึงเปลี่ยนคำแนะนำเป็น Reduce (จากเดิม Neutral) และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567 เป็น 7.70 บาทจากเดิม 9.65 บาท
[ONEE โบรกฯ ลดคำแนะนำเป็น “ขาย”]
ขณะที่ บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ปรับลดคำแนะนำ ONEE เป็น “ขาย” (จาก ซื้อ) เนื่องจาก
1) อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงเชิงโครงสร้าง และเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ (adex) ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้
2) การขายคอนเทนต์ของ ONEE ยังเผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่งที่แข็งแกร่งในภูมิภาค 3) ONEE มีกำไรไตรมาส 1/67 อ่อนแอที่เพียง 31 ล้านบาท ลดลง 41% จากปีก่อน และ 83% จากไตรมาสก่อน
โดยปรับลดประมาณการกำไรของเราลงอีก 23/26/41% ในปี 67-69 และปรับราคาเป้าหมาย (ปีฐาน 67) เหลือ 3.2 บาท (จาก 6 บาท) และ 4) เรามองว่า ONEE นั้นแพง โดยซื้อขายที่ PE ที่ 18 เท่า ในปี 67 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 22 เท่า ในปี 68 เนื่องจากแนวโน้มกำไรที่ลดลง -5/-16/-23% ในปี 67-69
ซึ่ง ROE ที่ต่ำเพียง 4-7% ยังทำให้ PE ดูแพงในมุมมองของเรา เราได้รวมผลกระทบเชิงบวกจากนโยบาย digital wallet ของรัฐบาลในประมาณการแล้ว
[BEC กำไรต่ำคาด 80%]
ด้านบล.กรุงศรี ระบุว่าแนะนำ Neutral หุ้น BEC โดยให้ราคาเป้าหมาย 4.94 บาท เนื่องจากมอง Negative ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 14 ล้านบาท ต่ำกว่าเราและตลาดคาด -38% และ -80% ตามลำดับ
จากรายได้ค่าโฆษณาต่ำกว่าคาด ขณะที่กำไรฟื้น 278% จากปีก่อน จากฐานต่ำและเป็นการโตจากรายได้อื่นๆ แต่ลด -85% จากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล
ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/67 จะฟื้น ตามฤดูกาล และงวดครึ่งหลังปี 67 มีปัจจัยหนุนจากหนัง “ธี่หยด2” เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น Neutral (เดิม Trading Buy) และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 4.94 บาท (เดิม 5.35 บาท)