จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : เศรษฐกิจไทย-อาเซียน ฟื้น กระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ PSP โตแกร่ง
24 พฤษภาคม 2567
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอาเซียนและเศรษฐกิจไทย ส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่น ของบมจ.พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ (PSP) ที่ยอดขายสินค้าแข็งแกร่งกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 300% และยังต่อเนื่องไปในไตรมาส2
ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียน-5 ปี 2567 จะอยู่ที่ 4.7% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวประมาณ 4.2% โดยอุปสงค์ภายในประเทศ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ประกอบกับการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อย ตามการคลี่คลายของภาวะชะงักงันด้านอุปทาน กำลังซื้อที่กระเตื้องขึ้นจากเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง และแรงกดดันจากสภาวะทางการเงินตึงตัวที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายต่อเศรษฐกิจภูมิภาคที่สำคัญ ได้แก่ ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก อาทิ เศรษฐกิจโลกที่ยังอ่อนแอ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ จะเพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการเติบโตของภูมิภาคผ่านช่องทางทั้งภาคการเงินและการค้า
เศรษฐกิจประเทศในอาเซียนที่ยังขยายตัวได้ดี ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ (PSP) ที่ให้บริการโซลูชันธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร (Total Solution Provider) โดย “เสกสรร ครองพาณิชย์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSP คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 ยังจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/67 จากคำสั่งซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัท จีเนียส เจเนติกส์ จำกัด หรือ GeneusDNA ผู้ให้บริการการตรวจวิเคราะห์สุขภาพและพรสวรรค์ด้วย DNA ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 25%
ซึ่งกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในช่วงปี 2567 บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างยอดขายสินค้าและผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพัฒนาผลิตภัณฑ์พิเศษที่หลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร น้ำยาบำบัดไอเสีย น้ำยาหล่อเย็นแบตเตอรี่ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนขยายธุรกิจใหม่หรือธุรกิจที่ความเกี่ยวข้องที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้น
"บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในปี 67 จะดำเนินธุรกิจได้ตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพัฒนาและผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์พิเศษ อาทิ จาระบี น้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าเป็น 25% จากเดิม 17% และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเป็น 30% จากเดิม 15% พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.14 เท่า โดยบริษัทฯ ได้คำนึงถึงการรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่งและมั่นคง ควบคู่ไปกับการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต" นายเสกสรร กล่าว
นายโชติธนินท์ เต็มศิริพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ PSP เสริมว่า "ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 3,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 338% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 80% เมื่อเทียบจากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากยอดขายที่มีการเติบโต กำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง"
ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำมันแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตและการบรรจุผลิตภัณฑ์ การให้บริการศูนย์กระจายน้ำมันเชื้อเพลิง การจัดเก็บและการให้บริการศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงการให้บริการจัดการด้านโลจิสติกส์ โดยมีกำลังผลิตน้ำมันหล่อลื่น 212 ล้านลิตร/ปี สูงสุดในประเทศไทย และมีกลุ่มลูกค้าชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ ยานยนต์ หม้อแปลงไฟฟ้า พลังงาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังขยายธุรกิจสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และบริการวิเคราะห์ DNA ซึ่งสอดคล้องกับเมกะเทรนด์และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกันแนวโน้มตลาดน้ำมันหล่อลื่นยังมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในภูมิภาคอาเซียนมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีมากกว่า 4% (CAGR 2563-2566)
ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียน-5 ปี 2567 จะอยู่ที่ 4.7% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวประมาณ 4.2% โดยอุปสงค์ภายในประเทศ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ประกอบกับการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อย ตามการคลี่คลายของภาวะชะงักงันด้านอุปทาน กำลังซื้อที่กระเตื้องขึ้นจากเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง และแรงกดดันจากสภาวะทางการเงินตึงตัวที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายต่อเศรษฐกิจภูมิภาคที่สำคัญ ได้แก่ ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก อาทิ เศรษฐกิจโลกที่ยังอ่อนแอ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ จะเพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการเติบโตของภูมิภาคผ่านช่องทางทั้งภาคการเงินและการค้า
เศรษฐกิจประเทศในอาเซียนที่ยังขยายตัวได้ดี ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ (PSP) ที่ให้บริการโซลูชันธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร (Total Solution Provider) โดย “เสกสรร ครองพาณิชย์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSP คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 ยังจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/67 จากคำสั่งซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัท จีเนียส เจเนติกส์ จำกัด หรือ GeneusDNA ผู้ให้บริการการตรวจวิเคราะห์สุขภาพและพรสวรรค์ด้วย DNA ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 25%
ซึ่งกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในช่วงปี 2567 บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างยอดขายสินค้าและผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพัฒนาผลิตภัณฑ์พิเศษที่หลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร น้ำยาบำบัดไอเสีย น้ำยาหล่อเย็นแบตเตอรี่ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนขยายธุรกิจใหม่หรือธุรกิจที่ความเกี่ยวข้องที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้น
"บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในปี 67 จะดำเนินธุรกิจได้ตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพัฒนาและผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์พิเศษ อาทิ จาระบี น้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าเป็น 25% จากเดิม 17% และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเป็น 30% จากเดิม 15% พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.14 เท่า โดยบริษัทฯ ได้คำนึงถึงการรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่งและมั่นคง ควบคู่ไปกับการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต" นายเสกสรร กล่าว
นายโชติธนินท์ เต็มศิริพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ PSP เสริมว่า "ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 3,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 338% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 80% เมื่อเทียบจากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากยอดขายที่มีการเติบโต กำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง"
ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำมันแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตและการบรรจุผลิตภัณฑ์ การให้บริการศูนย์กระจายน้ำมันเชื้อเพลิง การจัดเก็บและการให้บริการศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงการให้บริการจัดการด้านโลจิสติกส์ โดยมีกำลังผลิตน้ำมันหล่อลื่น 212 ล้านลิตร/ปี สูงสุดในประเทศไทย และมีกลุ่มลูกค้าชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ ยานยนต์ หม้อแปลงไฟฟ้า พลังงาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังขยายธุรกิจสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และบริการวิเคราะห์ DNA ซึ่งสอดคล้องกับเมกะเทรนด์และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกันแนวโน้มตลาดน้ำมันหล่อลื่นยังมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในภูมิภาคอาเซียนมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีมากกว่า 4% (CAGR 2563-2566)