Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 27-05-24 (ค่าระวางเรือโลก ปรับขึ้น 5 สัปดาห์ติด)
27 พฤษภาคม 2567
27-05-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ศุกร์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 39,069.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,304.72 จุด เพิ่มขึ้น 36.88 จุด หรือ +0.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,920.80 จุด เพิ่มขึ้น 184.77 จุด หรือ +1.10%
***รายงานข่าวระบุว่าดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (24 พ.ค.) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี และได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน
***ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.34% หลังปรับตัวขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน และปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น 0.03% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.41%
***ค่าระวางเรือโลก หรือ World Container Index (WCI) แนวโน้มเป็นขาขึ้น ปรับขึ้น 5 สัปดาห์ติด สัปดาห์ล่าสุด +16%w-w อยู่ที่ 4,076เหรียญต่อ 40 ft และปรับขึ้นต่อเกือบทุกเส้นทางเรือ (อาทิ เส้น Shanghai - Rotterdum +20%w-w, Shanghai – los Angelis +18%)
***มีการประเมินว่าจะส่งผลจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเรือ Container อาทิ RCL และบวกต่อกลุ่มให้บริการโลจิสติกส์ในลักษณะ Freight Forwarder ที่มี สัดส่วน Sea Freight สูง อาทิ SINO (90% ของรายได้), SONIC (62% ของรายได้) LEO (75% ของรายได้) และ WICE (34% ของรายได้)
***กูรูหุ้นระบุว่าดัชนี WCI ในปัจจุบันดัชนีค่าระวางเรือ Container ปีนี้ กลับมาปรับตัวขึ้นโดดเด่นมาเคลื่อนไหวในระดับ 3500 +/- จุด (vs ต้นปีบริเวณ 4,000 จุดช่วงทะเลแดงตึงเครียด vs 10,000 +/- จุดช่วง COVID) แรงขับเคลื่อนสำคัญรอบนี้ จากการฟื้นตัวฝั่งความต้องการ (Demand) ที่หนุนจากสัญญาณการภาคผลิตโลก บ่งชี้จาก Global Manufacturing PMI กลับมาอยู่ในระดับขยายตัว (>50 จุด) 3 เดือนต่อเนื่อง หนุนจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน-ยุโรปที่เร่งขึ้น (52% ของการค้าโลก) หนุน
***ในระยะสั้นเชื่อว่ายังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการเร่งสั่งซื้อสินค้าระยะสั้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ – ยุโรป - จีน ทยอยกลับมาออกมา มาตรการกีดกันการค้าแบบอ่อนๆ ระหว่างกันช่วงนี้ น่าจะเป็นเชิงสัญลักษณ์ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ สหรัฐฯ พ.ย. ปีนี้ น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อน Demand ต่อ
***กูรูชี้ว่ามีหุ้นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ ยังมีโอกาสเก็งกำไรลักษณะ Tactical Play คือ หุ้นในกลุ่ม Freight Forwarder ในส่วนที่มีสัดส่วน รายได้จากฝั่งเรือในสัดส่วนสูง อาทิ WICE (34% ของ รายได้) SONIC (62% ของรายได้) SINO (90% ของรายได้)
***ส่วนเรื่องของทั่นนายกฯ กระบวนการหลังจากนี้
-นายกฯต้องยื่นเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน
-รอคําวินิจฉัยของศาล รธน. ซึ่งต้องติดตามว่าผลคําตัดสินจะเป็นเช่นไร
-หากผลคําตัดสิน ออกมาว่าขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ นายกฯ และ ครม. ก็จะพ้นจากตําแหน่ง ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นกระบวนการในการเลือกนายกฯคนใหม่ และจัดตั้ง ครม. ซึ่งก้อจะทําให้ดำเนินนโยบายที่อยู่ในแผนงานของรัฐบาลปัจจุบันต้องสะดุด ไม่ว่าจะเป็น DIGITAL WALLET, การจัดทํางบประมาณรายจ่ายประจําปี (G), การเตรียมรับมืออุทกภัยของรัฐบาล เป็นต้น
***อย่างไรก็ตาม หากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าไม่มีความผิด สถานการรณ์การบริหารงานของรัฐบาลก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะเห็นความ ต่อเนื่องของการดําเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
***ต่อประเด็นดังกล่าวเซียนหุ้นเปิดกลยุทธ์การลงทุนแนะนํา หุ้นเด่น 3 ธีม
-หุ้นอิงนโยบายรัฐบาลมีโอกาส REBOUND ช่วงสั้น HMPRO-CPALL-BJC-CRC-CK-STEC-WHA-AMATA
-หุ้น GLOBAL PLAY หลบความผันผวนการเมืองภายในประเทศ KCE-TU-ITC-CPF-CBG
-หุ้นกําไร Q1/67โตเด่น แต่ราคาปีนี้ยังไม่ขยับขึ้น CPN-ADVANC-BBL-TIDLOR-MTC
***ศุกร์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 39,069.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,304.72 จุด เพิ่มขึ้น 36.88 จุด หรือ +0.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,920.80 จุด เพิ่มขึ้น 184.77 จุด หรือ +1.10%
***รายงานข่าวระบุว่าดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (24 พ.ค.) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี และได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน
***ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.34% หลังปรับตัวขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน และปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น 0.03% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.41%
***ค่าระวางเรือโลก หรือ World Container Index (WCI) แนวโน้มเป็นขาขึ้น ปรับขึ้น 5 สัปดาห์ติด สัปดาห์ล่าสุด +16%w-w อยู่ที่ 4,076เหรียญต่อ 40 ft และปรับขึ้นต่อเกือบทุกเส้นทางเรือ (อาทิ เส้น Shanghai - Rotterdum +20%w-w, Shanghai – los Angelis +18%)
***มีการประเมินว่าจะส่งผลจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเรือ Container อาทิ RCL และบวกต่อกลุ่มให้บริการโลจิสติกส์ในลักษณะ Freight Forwarder ที่มี สัดส่วน Sea Freight สูง อาทิ SINO (90% ของรายได้), SONIC (62% ของรายได้) LEO (75% ของรายได้) และ WICE (34% ของรายได้)
***กูรูหุ้นระบุว่าดัชนี WCI ในปัจจุบันดัชนีค่าระวางเรือ Container ปีนี้ กลับมาปรับตัวขึ้นโดดเด่นมาเคลื่อนไหวในระดับ 3500 +/- จุด (vs ต้นปีบริเวณ 4,000 จุดช่วงทะเลแดงตึงเครียด vs 10,000 +/- จุดช่วง COVID) แรงขับเคลื่อนสำคัญรอบนี้ จากการฟื้นตัวฝั่งความต้องการ (Demand) ที่หนุนจากสัญญาณการภาคผลิตโลก บ่งชี้จาก Global Manufacturing PMI กลับมาอยู่ในระดับขยายตัว (>50 จุด) 3 เดือนต่อเนื่อง หนุนจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน-ยุโรปที่เร่งขึ้น (52% ของการค้าโลก) หนุน
***ในระยะสั้นเชื่อว่ายังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการเร่งสั่งซื้อสินค้าระยะสั้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ – ยุโรป - จีน ทยอยกลับมาออกมา มาตรการกีดกันการค้าแบบอ่อนๆ ระหว่างกันช่วงนี้ น่าจะเป็นเชิงสัญลักษณ์ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ สหรัฐฯ พ.ย. ปีนี้ น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อน Demand ต่อ
***กูรูชี้ว่ามีหุ้นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ ยังมีโอกาสเก็งกำไรลักษณะ Tactical Play คือ หุ้นในกลุ่ม Freight Forwarder ในส่วนที่มีสัดส่วน รายได้จากฝั่งเรือในสัดส่วนสูง อาทิ WICE (34% ของ รายได้) SONIC (62% ของรายได้) SINO (90% ของรายได้)
***ส่วนเรื่องของทั่นนายกฯ กระบวนการหลังจากนี้
-นายกฯต้องยื่นเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน
-รอคําวินิจฉัยของศาล รธน. ซึ่งต้องติดตามว่าผลคําตัดสินจะเป็นเช่นไร
-หากผลคําตัดสิน ออกมาว่าขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ นายกฯ และ ครม. ก็จะพ้นจากตําแหน่ง ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นกระบวนการในการเลือกนายกฯคนใหม่ และจัดตั้ง ครม. ซึ่งก้อจะทําให้ดำเนินนโยบายที่อยู่ในแผนงานของรัฐบาลปัจจุบันต้องสะดุด ไม่ว่าจะเป็น DIGITAL WALLET, การจัดทํางบประมาณรายจ่ายประจําปี (G), การเตรียมรับมืออุทกภัยของรัฐบาล เป็นต้น
***อย่างไรก็ตาม หากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าไม่มีความผิด สถานการรณ์การบริหารงานของรัฐบาลก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะเห็นความ ต่อเนื่องของการดําเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
***ต่อประเด็นดังกล่าวเซียนหุ้นเปิดกลยุทธ์การลงทุนแนะนํา หุ้นเด่น 3 ธีม
-หุ้นอิงนโยบายรัฐบาลมีโอกาส REBOUND ช่วงสั้น HMPRO-CPALL-BJC-CRC-CK-STEC-WHA-AMATA
-หุ้น GLOBAL PLAY หลบความผันผวนการเมืองภายในประเทศ KCE-TU-ITC-CPF-CBG
-หุ้นกําไร Q1/67โตเด่น แต่ราคาปีนี้ยังไม่ขยับขึ้น CPN-ADVANC-BBL-TIDLOR-MTC