จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SMD รับอานิสงส์ สปส.ขยายสิทธิ์ เพิ่มการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับ


27 พฤษภาคม 2567
โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวและมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้   สำนักงานประกันสังคม (สปส.)จึงได้เพิ่มสิทธิ์ในการเข้ารักษาของผู้ประกันตน  ซึ่งสนับสนุนธุรกิจ บมจ.เซนต์เมด (SMD) ที่นำเข้าเครื่องมือ และมีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยไม่ต่ำกว่า 10 ปี  

รายงานพิเศษ SMD copy.jpg

ภายหลังจากที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ลดความเสี่ยงของโรค NCDs หรือโรคเรื้อรังให้กับผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น ผ่านโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกฯ 

โดยตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ได้ปรับเพิ่ม รายการตรวจสุขภาพให้มีความถี่เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับปัจจัยด้านอายุและความจำเป็นในการตรวจ เช่น ให้ผู้ประกันตนที่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป จะได้รับการตรวจน้ำตาล, ไขมันในเลือด, ตรวจการทำงานของไต, ตรวจปัสสาวะ รวมถึงการตรวจ X-ray  ตามหลักเกณฑ์อัตราที่กำหนด "ทุกปี" ซึ่งเป็นการตรวจ "เสริม" จากการตรวจสุขภาพพื้นฐานของ สปส. ที่ให้คนไทยทุกสิทธิ

นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคม ได้มอบสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลอื่นๆ  เช่น เพิ่มการเข้าถึงการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่อง CPAP โดยจ่ายค่าอุปกรณ์เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า (CPAP) และค่าตรวจการนอนหลับ (Sleep test) สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งถือเป็นโรคที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะนำมาซึ่งความอันตรายแก่ชีวิตอีกด้วย

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการ สปส. ยืนยันว่า สำนักงานประกันสังคม ได้พัฒนาสิทธิการรักษาพยาบาลให้กับผู้ประกันตนอย่างต่อเนื่องอยู่สม่ำเสมอ เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มโรค ทุกความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ประกันตน และทุกสิทธิการรักษาจะไม่ด้อยกว่าสิทธิการรักษาโรคในระบบการประกันสุขภาพอื่นของไทย

ทั้งนี้การขยายสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม สอดคล้องกับทิศทางการขยายธุรกิจของ บมจ.เซนต์เมด (SMD)  ซึ่งดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ยอมรับว่า บริษัทมีความได้เปรียบคู่แข่งจากกรณีที่หน่วยงานประกันสังคมผู้ประกันตนสามารถเบิก\ ค่าตรวจ Sleep test และ เบิกจ่าย CPAP  เนื่องจากบริษัทเป็นผู้นำเข้าเครื่องดังกล่าวมาเป็นเวลา 10 ปี และมีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคดังกล่าว

โดยมีความร่วมมือกับหน่วยงานที่ให้บริการด้านการแพทย์เปิดศูนย์รักษาโรคเกี่ยวกับการนอนหลับตั้งแต่ปี 62 ทำให้สนับสนุนรายได้กลุ่ม New S Curve  
ซึ่งธุรกิจในกลุ่ม New S Curve ภายใต้ SMDX  จะเน้นด้านธุรกิจ เมดิคอล เวลธ์เน็ต  คาดว่าจะมีรายได้ ราว 500-600 ลบ.เพิ่มเท่าตัวจากปีก่อนที่มีรายได้ราว 230 ลบ. ส่วนหนึ่งจะมีการขยาย ศูนย์ตรวจการนอนหลับ เอสเอ็มดีเอกซ์ คิน-ออริจิ้น โดยตั้งเป้า จำนวน 180 เตียง ภายใน 3 ปี(ปี 67-69) โดยเพิ่มปีละ 60 เตียง อย่างไรก็ตามโครงสร้างรายได้ในธุรกิจ New S curve บริษัทยังมุ่งเน้นสร้างกระแสรายได้อย่างต่อเนื่อง (Revenue Sharing) ซึ่งเป็นการจับมือกับพันธมิตรทั้งในส่วนของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และการจับมือกับคลินิกสุขภาพ เป็นต้น

ทำให้ปีนี้บริษัทยังคงคาดการณ์รายได้ทั้งปีอยู่ที่ประมาณ  1,600 ลบ. แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ราว 1,000 ลบ. โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปีนี้งบประมาณที่ชะลอก็จะเริ่มมีออเดอร์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังรายได้ส่วนนี้จะเติบโตโดดเด่น
SMD