เรื่องเด่นวันนี้
TGE ส่งซิก Q2/67 โตสวย บุ๊กรายได้โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส หนุนผลงานปี 67 ออลไทม์ไฮ
27 พฤษภาคม 2567
TGE ส่งซิกผลงาน Q2/67 แนวโน้มโตสวย หลังรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สเต็มสูบ ฟาก CEO “สืบตระกูล บินเทพ” มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% ตามเป้า พร้อมเดินหน้า M&A กับพันธมิตรขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานสะอาดเสริมทัพดันกำลังการผลิตแตะ 200 MW ภายในปี 2575
นายสืบตระกูล บินเทพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2567 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกปีนี้ โดยเฉพาะการรับรู้รายได้จากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังผลิตติดตั้งรวม 7 เมกะวัตต์ ระยะเวลาสัญญา 5 ปี
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าศึกษาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานสะอาดทั้งแผนเข้าลงทุนเอง และเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรุกขยายไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทอื่นๆ ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 เพื่อเสริมทัพดันเป้ากำลังการผลิตติดตั้งรวมแตะ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2575 ตามแผนที่วางไว้ ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
“บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะรุกขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทอื่นที่มีศักยภาพในประเทศในกลุ่ม CLMV เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 28.8 MW ในประเทศเวียดนาม และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 20 MW ที่ประเทศกัมพูชา โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาโครงการ ทั้งในรูปแบบของ M&A และรูปแบบโครงการที่เริ่มต้นบริหารเอง ภายใต้การบริหารจัดการที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในการลงทุน ดังนั้นในช่วงแรกจึงมองในเรื่องของการ M&A โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 นี้” นายสืบตระกูล กล่าว
อนึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 258.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 234.9 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้น 90.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 85.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการรับบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่า FiT รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการจ่ายชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ปัจจุบันบริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากชีวมวลที่มีกำลังผลิตรวม 29.7 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย 3 โครงการ ภายใต้การดำเนินงานของ 3 บริษัท ได้แก่ TGE, TPG, และ TBP ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามสัญญา PPA รวม 26.3 เมกะวัตต์ และบางส่วนขายให้แก่ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมและใช้ภายในกลุ่มบริษัท TGE นอกจากนี้ยังมีธุรกิจบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 7 เมกะวัตต์
ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เรียบร้อยแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 49.8 เมกะวัตต์ โดยมีความคืบหน้าในการก่อสร้างเฟสที่ 1 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ 1. จังหวัดสระแก้ว 2. จังหวัดชุมพร 3. จังหวัดราชบุรี และ 4. จังหวัดชัยนาท กำหนดแล้วเสร็จและคาดพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ปลายปี 2568 และต้นปี 2569 ขณะที่โครงการในเฟส 2 จำนวนทั้งสิ้น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ 1. จังหวัดสมุทรสาคร และ 2. จังหวัดอุบลราชธานี มีแผนเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2568 กำหนดแล้วเสร็จพร้อม COD ปลายปี 2569 และต้นปี 2570
ทั้งนี้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญสูงสุดกับพลังงานสะอาดที่เป็นพลังงานทางเลือกที่ลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
นายสืบตระกูล บินเทพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2567 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกปีนี้ โดยเฉพาะการรับรู้รายได้จากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังผลิตติดตั้งรวม 7 เมกะวัตต์ ระยะเวลาสัญญา 5 ปี
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าศึกษาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานสะอาดทั้งแผนเข้าลงทุนเอง และเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรุกขยายไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทอื่นๆ ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 เพื่อเสริมทัพดันเป้ากำลังการผลิตติดตั้งรวมแตะ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2575 ตามแผนที่วางไว้ ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
“บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะรุกขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทอื่นที่มีศักยภาพในประเทศในกลุ่ม CLMV เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 28.8 MW ในประเทศเวียดนาม และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 20 MW ที่ประเทศกัมพูชา โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาโครงการ ทั้งในรูปแบบของ M&A และรูปแบบโครงการที่เริ่มต้นบริหารเอง ภายใต้การบริหารจัดการที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในการลงทุน ดังนั้นในช่วงแรกจึงมองในเรื่องของการ M&A โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 นี้” นายสืบตระกูล กล่าว
อนึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 258.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 234.9 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้น 90.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 85.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการรับบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่า FiT รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการจ่ายชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ปัจจุบันบริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากชีวมวลที่มีกำลังผลิตรวม 29.7 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย 3 โครงการ ภายใต้การดำเนินงานของ 3 บริษัท ได้แก่ TGE, TPG, และ TBP ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามสัญญา PPA รวม 26.3 เมกะวัตต์ และบางส่วนขายให้แก่ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมและใช้ภายในกลุ่มบริษัท TGE นอกจากนี้ยังมีธุรกิจบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 7 เมกะวัตต์
ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เรียบร้อยแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 49.8 เมกะวัตต์ โดยมีความคืบหน้าในการก่อสร้างเฟสที่ 1 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ 1. จังหวัดสระแก้ว 2. จังหวัดชุมพร 3. จังหวัดราชบุรี และ 4. จังหวัดชัยนาท กำหนดแล้วเสร็จและคาดพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ปลายปี 2568 และต้นปี 2569 ขณะที่โครงการในเฟส 2 จำนวนทั้งสิ้น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ 1. จังหวัดสมุทรสาคร และ 2. จังหวัดอุบลราชธานี มีแผนเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2568 กำหนดแล้วเสร็จพร้อม COD ปลายปี 2569 และต้นปี 2570
ทั้งนี้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญสูงสุดกับพลังงานสะอาดที่เป็นพลังงานทางเลือกที่ลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม