จับประเด็นหุ้นเด่น

สัมภาษณ์พิเศษ : เศรษฐกิจชะลอไม่กระทบสินค้า Luxury ดันผลงาน EURO เติบโตสวนกระแส


27 พฤษภาคม 2567
แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ยังเติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งเกิดจากสาเหตุอะไร และบริษัทใช้กลยุทธ์แบบไหนในการขยายธุรกิจ ไปเจาะลึกมุมมองนี้กับ “เควิน กัมบีร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EURO 

สัมภาษณ์พิเศษ เศรษฐกิจชะลอไม่กระทบสินค้า .jpg

[ลักษณะธุรกิจของ EURO] 
บริษัทฯประกอบธุรกิจหลักเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์สำหรับการตกแต่ง และอุปกรณ์ฟิตเนส จาก Brand ชั้นนำระดับลักซูรี่  ระดับโลก  โดยมี 2 ประเภท ได้แก่  Home & Living และ Life Style  

ซึ่งในส่วนของ Home & Living แบ่งเป็น 3 stage  ได้แก่ 
1. เวลาลูกค้าเริ่มสร้างบ้าน จะมีบริการในส่วนของ  Smart Home   เช่น  ระบบไฟ  ระบบห้องน้ำ  ระบบครัว  ตู้เสื้อผ้า  ห้องน้ำ  
2. ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์  ซึ่งมีหลาย Brand ให้ลูกค้าเลือก
3. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตกแต่งในบ้าน  ของประดับบนโต๊ะต่างๆ  โคมไฟตกแต่ง ทั้งภายในและภายนอกของบ้าน 

[แหล่งที่มาของรายได้ EURO] 
เราทำธุรกิจกับลูกค้า หรือ Retail    ดังนั้นรายได้ 65-70% มาจากลูกค้า  หรือ B2C  ส่วนอีกประมาณ 30% มาจากลูกค้ากลุ่ม โรงแรม  คอนโดมิเนียม ที่เป็นลูกค้า High End   หรือ B2B 
 
[ปรับราคาสินค้า สู้ภาวะเงินบาทที่อ่อน]
กระทบนิดหน่อยทำให้เราขาดทุนกำไร  แต่บริษัทมีนโยบายที่ชัดเจนว่า หากเงินบาทอ่อนค่าลงถึงระดับไหนจึงจะปรับราคาสินค้า  โดยบริษัทจะกำหนดช่วงเผื่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ตลอด  แต่การตัดสินใจซื้อสินค้าก็ไม่กระทบมาก เพราะลูกค้าซื้อสินค้าเพราะ Brand  และเป็นเรื่องปกติที่เงินบาทจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตลอดเวลา 

[จุดเด่นทางธุรกิจของ EURO]   
บริษัทเราเป็นตัวแทน Brand ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำของโลก  ที่มีความแตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป โดยสินค้าที่บริษัทได้เป็นตัวแทนจำหน่ายไม่น้อยกว่า 15-16 แบรนด์  เช่น Poltrona Frau   ซึ่งเป็น Brand เฟอร์นิเจอร์หนัง Top3 ของโลก , Frette ชุดเครื่องนอนที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดของโลกและเป็น Brand เก่าแก่จากอิตาลี และ Haworth เป็น Brand  เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุดในโลก

[แผนกลยุทธ์ของ EURO ในปีนี้]
เราวางกลยุทธ์ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด โดยการเจาะตลาดปัจจุบันและตลาดใหม่ ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เพิ่มสินค้าหลายประเภทจากเจ้าของสินค้าที่แตกต่างกันเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถขายสินค้าและบริการเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของลูกค้าได้อย่างครบวงจร (Total Living Solutions) และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกขั้นตอนของการตกแต่ง ทั้งบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน และสปอร์ตคลับ

[เป้าหมายรายได้ปี 2567] 
บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปีนี้แตะระดับ 1,400 ล้านบาทตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทฯจะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายโชว์รูม Euro Creations Flagship Gallery at Phuket  ซึ่งเป็นแฟลกชิพโชว์รูมแห่งแรกในภูเก็ตในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าตามไลฟ์สไตล์ลักชูยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโตตามเป้าหมาย

[เหตุผลที่เลือกเปิดสาขาในจังหวัดภูเก็ต]
เพราะ จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจของตัวเอง  มีคนที่มีเงินมาก และมีคนมีกำลังซื้อสินค้า Luxury ของเรามีจำนวนมาก  

[นำเงินระดมทุนต่อยอดการเติบโต]
เราได้นำไปใช้ตามที่ได้แจ้งไว้  ทั้งการชำระคืนเงินกู้   เป็นกระแสเงินสดของบริษัท และ นำไปขยายสาขาใหม่อีก 3 แห่ง  ประกอบด้วย  ที่จัดหวัดภูเก็ตซึ่งเปิดแล้ว ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันที  ส่วนทองหล่อซอย 5 จะเปิดประมาณไตรมาส 3 หรือ 4  จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4   ส่วนทองหล่อซอย 1  เปิดไตรมาสแรกปี 2026 

[เป้าหมายบริษัทในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า] 
เราอยากได้ Brand ที่เป็นแพชชั่น และเป็น Brand  ระดับโลก เข้ามาขายในเมืองไทยเพิ่มขึ้นอีก  ขณะที่ 3 สาขาที่เราจะเปิด เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 

[ชูการเป็นหุ้นเติบโต และปันผล]
เรามองบริษัท EURO เป็นเรื่องที่ Cash flow นิ่งมาก   เพราะสินค้าของเราเป็นระดับ Luxury  ซึ่งเวลาที่เศรษฐกิจดีเราก็เติบโต เศรษฐกิจไม่ได้เราก็ไปได้  เป็นกลุ่มลูกค้าที่มี รายได้ มีกำลังซื้อสูงมาก จึงเป็นหุ้นที่ปลอดภัยในระดับหนึ่ง และเราจะสร้างความมั่นใจอย่างต่อเนื่องทุกปี  ซึ่งจากประวัติที่ผ่านมา ถือว่าบริษัทเราเป็นหุ้นเติบโตและหุ้นปันผล