Talk of The Town

เปิดโผหุ้นเสี่ยงโดน “ก.คลัง” เททิ้ง หลังมีคำสั่งขายหุ้นไม่จำเป็นต้องถือ


28 พฤษภาคม 2567
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีกระแสข่าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช. คลัง) ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ทบทวนหลักทรัพย์ของรัฐฯ ที่กระทรวงการคลังถือครอง โดยควรแยกเป็นกลุ่มหุ้นที่มีศักยภาพ หุ้นที่ภาครัฐฯต้องมีนโยบายถือครอง และหุ้นที่ไม่มีความจำเป็นต้องถือครอง ในกลุ่มสุดท้ายมองเป็นส่วนที่ควรต้องเร่งจำหน่ายออก

เปิดโผหุ้นเสี่ยงโดน copy.jpg

ดังนั้นวันนี้ทีมข่าว Share2Trade จะพานักลงทุนมาสำรวจผลประกอบการหุ้นที่กระทรวงการคลังถือครองว่าจะมีความน่าสนใจหรือไม่ และหุ้นบริษัทไหนมีความเสี่ยงมากที่สุดจากประเด็นดังกล่าว บทความนี้มีคำตอบให้แล้ว

โดยในมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินกรณี รมช. คลัง ได้มอบหมายให้ สคร. ทบทวนหลักทรัพย์ของรัฐฯที่กระทรวงการคลังถือครอง โดยควรแยกเป็นกลุ่มหุ้นที่มีศักยภาพ หุ้นที่ภาครัฐต้องมีนโยบายถือครอง และหุ้นที่ไม่มีความจำเป็นต้องถือครอง ในกลุ่มสุดท้ายมองเป็นส่วนที่ควรต้องเร่งจำหน่ายออก 

ทั้งนี้มองอาจสร้างจิตวิทยาลบต่อ SET จากความเสี่ยงที่นักลงทุนพิจารณาลดน้ำหนักในกลุ่มหุ้นที่รัฐฯถือครองสัดส่วนหลักๆ อาทิ BCP, OR, DMT, TFFIF, TTB (รวมกัน 89% ของมูลค่า 109 หลักทรัพย์ที่รัฐฯถือครอง) กลยุทธ์ระยะสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มเหล่านี้ไปก่อน

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด มีความเห็นว่า กรณีกระทรวงการคลังเพิ่งประกาศทบทวนพอร์ตการลงทุนหุ้น โดยให้ความสำคัญกับหุ้นที่สร้างผลตอบแทนให้กับรัฐบาล หุ้นที่ไม่ถือว่ามีความสำคัญเชิงกลยุทธ์และไม่สร้างผลตอบแทนที่ดี มีโอกาสถูกขายสูง ซึ่งฝ่ายวิจัยจึงแบ่งกลุ่มหุ้นออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

1.กลุ่มที่มีโอกาสถูกขายน้อย ประกอบด้วย AOT ถือเป็นบริษัทสำคัญของประเทศไทย และมีความสำคัญต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว, PTT มีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ, OR รัฐบาลอาจต้องการควบคุมราคาน้ำมันขายปลีกผ่านบริษัทนี้ และ BCP ก็เช่นกันในเรื่องของความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ

2.กลุ่มที่มีโอกาสถูกขายปานกลาง ประกอบด้วย TTB (ธนาคารทหารไทยธนชาติ)  กระทรวงการคลังมีกำไรจากการลงทุนในหุ้นตัวนี้ แต่ไม่ถือว่ามีความสำคัญเชิงกลยุทธ์, ตามด้วย DMT บริหารจัดการทางด่วน และสร้างกำไรให้กับกระทรวงการคลัง, TFFIF บริหารจัดการทางด่วนเช่นกัน แต่ไม่สร้างกำไรให้กับกระทรวงการคลัง, MFC บริหารจัดการเงินของรัฐบาล และสร้างกำไร และ RPH สร้างกำไรให้กับกระทรวงการคลัง

3.กลุ่มที่มีโอกาสถูกขายสูง ประกอบด้วย MCOT  ไม่สร้างกำไรและไม่จ่ายเงินปันผล โดยการเป็นเจ้าของบริษัทสื่อไม่ใช่กลยุทธ์ที่สำคัญของรัฐบาลอีกต่อไป

ตามด้วย THAI ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง, BEYOND บริษัทขนาดเล็ก ขาดทุน และไม่มีมูลค่าเชิงกลยุทธ์ และ NEP ไม่จ่ายเงินปันผล และขาดทุน

เปิดโผหุ้นเสี่ยงโดน 1-1 copy.jpg
SET