Fund / Insurance

ธุรกิจประกันชีวิตQ1/67เบี้ยรับรวม แตะ 163,959 ลบ. โต 4.72%


28 พฤษภาคม 2567
สมาคมประกันชีวิตไทยเผยไตรมาสแรก ปี 67 เบี้ยรับรวม 163,959 ล้านบาท โตขึ้น 4.72% การขายผ่านตัวแทนยังครองอันดับ 1 ขณะที่ประกันสุขภาพและคุ้มครองโรคร้ายแรงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากสุด ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

Fund Insurance ธุรกิจประกันชีวิต Q1 67 เบี้ยรับรวม.jpg

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า ไตรมาสแรก ปี 2567  ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) อยู่ที่ 163,959 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  4.72% แบ่งเป็น เบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ (New Business Premium) 45,890 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 2.07%  และเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป (Renewal Year Premium) 118,068 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 5.79% และมีอัตราความคงอยู่ 83%
 
สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ ประกอบด้วย
1.) เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (First Year Premium)  จำนวน 29,841 ล้านบาท เติบโตลดลง 3.59%
2.) เบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) จำนวน 16,050 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 14.56%
เมื่อจำแนกเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2567 แยกตามช่องทางการจำหน่าย อันดับ 1 การขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต จำนวน 78,013 นบาท สัดส่วน 47.58% หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 2.20%  เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
อันดับ 2  การขายผ่านธนาคาร จำนวน 66,044 ล้านบาท สัดส่วน 40.28% หรือเติบโตเพิ่มขึ้น  5.49% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
อันดับ 3 การขายผ่านช่องทางนายหน้า จำนวน 11,228  ล้านบาท สัดส่วน 6.85% หรือเพิ่มขึ้น 16.90% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ส่วนการขายผ่านช่องทางอื่นๆ (Others) เช่น การขาย Worksite การขายผ่านการออกบูธ Walk-in และ การขายผ่านร้านค้าสะดวกซื้อ เป็นต้น มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 5,266 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.21% หรือเติบโตเพิ่มขึ้น  23.30% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตในไตรมาสแรก ปี 2567 คือ สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและคุ้มครองโรคร้ายแรง (Health และ CI) ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 32,776 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 12.48% คิดเป็นสัดส่วน  19.99% ซึ่งหลัก ๆ มาจากการที่ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพและเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการทำประกันคุ้มครองสุขภาพและประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงมากขึ้น เพื่อบริหารความเสี่ยงและรับมือกับค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น (Medical Inflation) 
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Pension) ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก  โดยเบี้ยประกันภัยรับรวมของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Pension) อยู่ที่ 2,604 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 14.80% คิดเป็นสัดส่วน 1.59%
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit – Linked และ Universal life) ก็ได้รับความสนใจเช่นเดียวกัน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 8,979 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้น 1.98% คิดเป็นสัดส่วน 5.48% ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนเริ่มเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องการลงทุนและความคุ้มครอง ที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปรับลดเงินลงทุนหรือทุนประกันภัย ซึ่งตอบโจทย์เป้าหมายทั้งด้านการเงินและการบริหารความเสี่ยงในเวลาเดียวกัน