บมจ. วิลล่า คุณาลัย (KUN) โชว์งบผลการดำเนินงาน งวดปี 2565 โกยรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ แตะระดับ 1,001.62 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีกำไรสุทธิ 106.63 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย (Pre-Sale) แตะ 1,439.90 ล้านบาท พร้อมตุน backlog แล้วกว่า 175 ล้านบาท จ่อทยอยรับรู้รายได้เข้ากระเป๋าในไตรมาส 1/2566 ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวแจกปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นXD วันที่ 9 มีนาคม 2566 นี้ ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร”เดินหน้าตอกย้ำแผนปี 2566 เปิดตัวโครงการบ้านระดับกลาง-บน ภายใต้แบรนด์ “คุณาลัย นาวาร่า” และ “คุณาลัย เพอร่า”มูลค่ารวมกว่า 11,600 ล้านบาท มั่นใจยอด Pre-Sale มีลุ้นแตะ 1,800 ล้านบาท ขณะที่เป้ารายได้ส่อแววแตะ 1,300 ล้านบาท
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN” ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบในเขตพื้นที่ชานเมือง เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่น ในการสร้างโอกาสการเติบโต เพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้เปิดตัวโครงการใหม่ๆ อาทิ โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด , โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2 , โครงการคุณาลัย จอย ออน 314 รวมถึง 2 โครงการ ที่เปิดพรีเซลล์ในปี 2565 ที่ผ่านมาคือ โครงการ คุณาลัย เดซี่ และ โครงการคุณาลัย พาร์โก้ ซึ่งทุกโครงการของ “คุณาลัย” ตอบโจทย์ทุกความต้องการของ ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมือง โดยหัวใจหลักของ “คุณาลัย” คือเน้นให้ความสำคัญของพื้นที่ใช้สอยที่สามารถปรับได้ทุกความต้องการบนความคุ้มค่าน่าซื้อของราคา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของรายได้จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยพิจารณาได้จากตลอดช่วงระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) ที่ผ่านมา “คุณาลัย”มีอัตราการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยปี 2561 มีรายได้รวม 447.09 ล้านบาท, ปี 2562 มีรายได้รวม 652.67 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้รวม 803.79 ล้านบาท, ปี 2564 มีรายได้รวม 996.39 ล้านบาท, และในปีนี้ 2565 บริษัทฯ มีความสามารถในการทำรายได้ แตะระดับ 1,001.62 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดขาย(Pre-Sale) ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 1,439.90 ล้านบาท และมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้เป็นรายได้เข้ามาภายในไตรมาส 1/2566 มูลค่า 175 ล้านบาท
ทั้งนี้แม้ว่า ในปี 2565 ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ จะเกิดการชะลอตัวจากตัวแปรด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับต้นทุนวัสดุก่อสร้าง รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่บริษัทฯก็ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของตัวเลขกำไรสุทธิ แตะระดับ 106.63 ล้านบาทได้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพิจารณาเรื่องการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นงวดปี 2565 เพิ่มเติมอีก ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น จากที่มีการจ่ายปันผลไปแล้วก่อนหน้านี้ ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยเตรียมวาระดังกล่าวเสนอประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 26 เมษายน 2566 เพื่อทำการอนุมัติและกำหนดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เป็นลำดับต่อไป ซึ่งจากการจ่ายปัผลต่อเนื่อง ตอกย้ำได้ว่าหุ้น “ KUN” เป็นหุ้น Growth Stock ในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งตัว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2566 นั้น นางประวีรัตน์ CEO บมจ.วิลล่า คุณาลัย กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ที่ระดับ 1,300 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท โดยมองว่าทิศทางการเติบโตของบริษัทฯในปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 จากการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในทำเลบางบัวทองที่บริษัทฯ มีความชำนาญ ร่วมกับการเปิดโครงการบ้านระดับกลาง -บน และมุ่งขยายไปพัฒนาในทำเลอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งสอดรับกับดีมานด์ที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังจากกำลังซื้อเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังจากมีการเปิดประเทศ ส่งผลให้กลุ่มสถาบันการเงินกลับมาพิจารณาการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในกลุ่มที่เคยได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 มากขึ้น อาทิ กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม กลุ่มธุรกิจสายการบิน และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดดังกล่าวก็จะส่งอานิสงค์เชิงบวกต่อบริษัทฯ
ส่วนปัจจัยอัตราดอกเบี้ยของประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2% - 5% จากค่างวดเดิมนั้น ภาครัฐบาลได้มีการออกมาตราการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
โดยในปีนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโครงการ จำนวน 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “คุณาลัย นาวาร่า”2 โครงการ และ “คุณาลัย เพอร์ร่า” 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,600 ล้านบาท ซึ่งโครงการ คุณาลัย นาวาร่า ถือว่าเป็นโครงการระดับกลาง-บน" ประกอบด้วย 1.โครงการคุณาลัย นาวาร่า พระราม 2-บางขุนเทียน โซนทิศใต้ของกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท เป็นโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 63 ตรว. ราคาเริ่มต้นที่ 5.98 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่บน ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล โดยปัจจุบันโครงการเปิด Soft Opening เมื่อตุลาคมที่ผ่านมา และมียอดขายแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 นี้เป็นต้นไป
2.โครงการคุณาลัย นาวาร่า รังสิต-คลอง 2 โซนทิศเหนือของกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 6,700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 5.79 ล้านบาท คาดว่าจะเปิด Soft Opening ได้ในไตรมาสที่ 2/2566 นี้ และ 3. โครงการ คุณาลัย เพอร่า บางบัวทอง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการประมาณ 530 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 4.49 ล้านบาท คาดว่าจะเปิด Soft Opening ได้ในไตรมาสที่ 2/2566 ทั้งนี้ จากแผนการเปิดตัวโครงการ ในปีนี้ ส่งผลให้ “คุณาลัย”ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้ “วิลล่า คุณาลัย” ครบทั้ง 4 ทิศรอบกรุงเทพฯ- ปริมณฑล ตามแผนที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดรับกับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯวางกลยุทธ์ มุ่งเน้นจุดเด่นการให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านภายใต้การศึกษานวัตกรรมใหม่เพื่อใช้ในการอยู่อาศัย อาทิ บ้านอัจฉริยะ ซึ่งจะทำให้ผู้อาศัยได้รับความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นการออกแบบบ้านให้สามารถรับแสงธรรมชาติ รวมถึงออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลม เพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน รวมถึงเทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน เช่น โซลาร์เซลล์ ซึ่งบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โดยในขณะนี้ได้เริ่มนำมาติดตั้ง ในโครงการใหม่ๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเดินตาม Road map ที่จะไปสู่การเป็น Net Zero ในอนาคต
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN” ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบในเขตพื้นที่ชานเมือง เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่น ในการสร้างโอกาสการเติบโต เพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้เปิดตัวโครงการใหม่ๆ อาทิ โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด , โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2 , โครงการคุณาลัย จอย ออน 314 รวมถึง 2 โครงการ ที่เปิดพรีเซลล์ในปี 2565 ที่ผ่านมาคือ โครงการ คุณาลัย เดซี่ และ โครงการคุณาลัย พาร์โก้ ซึ่งทุกโครงการของ “คุณาลัย” ตอบโจทย์ทุกความต้องการของ ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมือง โดยหัวใจหลักของ “คุณาลัย” คือเน้นให้ความสำคัญของพื้นที่ใช้สอยที่สามารถปรับได้ทุกความต้องการบนความคุ้มค่าน่าซื้อของราคา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของรายได้จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยพิจารณาได้จากตลอดช่วงระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) ที่ผ่านมา “คุณาลัย”มีอัตราการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยปี 2561 มีรายได้รวม 447.09 ล้านบาท, ปี 2562 มีรายได้รวม 652.67 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้รวม 803.79 ล้านบาท, ปี 2564 มีรายได้รวม 996.39 ล้านบาท, และในปีนี้ 2565 บริษัทฯ มีความสามารถในการทำรายได้ แตะระดับ 1,001.62 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดขาย(Pre-Sale) ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 1,439.90 ล้านบาท และมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้เป็นรายได้เข้ามาภายในไตรมาส 1/2566 มูลค่า 175 ล้านบาท
ทั้งนี้แม้ว่า ในปี 2565 ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ จะเกิดการชะลอตัวจากตัวแปรด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับต้นทุนวัสดุก่อสร้าง รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่บริษัทฯก็ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของตัวเลขกำไรสุทธิ แตะระดับ 106.63 ล้านบาทได้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพิจารณาเรื่องการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นงวดปี 2565 เพิ่มเติมอีก ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น จากที่มีการจ่ายปันผลไปแล้วก่อนหน้านี้ ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยเตรียมวาระดังกล่าวเสนอประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 26 เมษายน 2566 เพื่อทำการอนุมัติและกำหนดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เป็นลำดับต่อไป ซึ่งจากการจ่ายปัผลต่อเนื่อง ตอกย้ำได้ว่าหุ้น “ KUN” เป็นหุ้น Growth Stock ในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งตัว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2566 นั้น นางประวีรัตน์ CEO บมจ.วิลล่า คุณาลัย กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ที่ระดับ 1,300 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท โดยมองว่าทิศทางการเติบโตของบริษัทฯในปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 จากการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในทำเลบางบัวทองที่บริษัทฯ มีความชำนาญ ร่วมกับการเปิดโครงการบ้านระดับกลาง -บน และมุ่งขยายไปพัฒนาในทำเลอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งสอดรับกับดีมานด์ที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังจากกำลังซื้อเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังจากมีการเปิดประเทศ ส่งผลให้กลุ่มสถาบันการเงินกลับมาพิจารณาการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในกลุ่มที่เคยได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 มากขึ้น อาทิ กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม กลุ่มธุรกิจสายการบิน และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดดังกล่าวก็จะส่งอานิสงค์เชิงบวกต่อบริษัทฯ
ส่วนปัจจัยอัตราดอกเบี้ยของประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2% - 5% จากค่างวดเดิมนั้น ภาครัฐบาลได้มีการออกมาตราการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
โดยในปีนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโครงการ จำนวน 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “คุณาลัย นาวาร่า”2 โครงการ และ “คุณาลัย เพอร์ร่า” 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,600 ล้านบาท ซึ่งโครงการ คุณาลัย นาวาร่า ถือว่าเป็นโครงการระดับกลาง-บน" ประกอบด้วย 1.โครงการคุณาลัย นาวาร่า พระราม 2-บางขุนเทียน โซนทิศใต้ของกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท เป็นโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 63 ตรว. ราคาเริ่มต้นที่ 5.98 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่บน ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล โดยปัจจุบันโครงการเปิด Soft Opening เมื่อตุลาคมที่ผ่านมา และมียอดขายแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 นี้เป็นต้นไป
2.โครงการคุณาลัย นาวาร่า รังสิต-คลอง 2 โซนทิศเหนือของกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 6,700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 5.79 ล้านบาท คาดว่าจะเปิด Soft Opening ได้ในไตรมาสที่ 2/2566 นี้ และ 3. โครงการ คุณาลัย เพอร่า บางบัวทอง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการประมาณ 530 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 4.49 ล้านบาท คาดว่าจะเปิด Soft Opening ได้ในไตรมาสที่ 2/2566 ทั้งนี้ จากแผนการเปิดตัวโครงการ ในปีนี้ ส่งผลให้ “คุณาลัย”ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้ “วิลล่า คุณาลัย” ครบทั้ง 4 ทิศรอบกรุงเทพฯ- ปริมณฑล ตามแผนที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดรับกับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯวางกลยุทธ์ มุ่งเน้นจุดเด่นการให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านภายใต้การศึกษานวัตกรรมใหม่เพื่อใช้ในการอยู่อาศัย อาทิ บ้านอัจฉริยะ ซึ่งจะทำให้ผู้อาศัยได้รับความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นการออกแบบบ้านให้สามารถรับแสงธรรมชาติ รวมถึงออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลม เพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน รวมถึงเทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน เช่น โซลาร์เซลล์ ซึ่งบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โดยในขณะนี้ได้เริ่มนำมาติดตั้ง ในโครงการใหม่ๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเดินตาม Road map ที่จะไปสู่การเป็น Net Zero ในอนาคต