Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-05-24 (คู่เดือด! MASTER-KLINIQ )
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-05-24 (คู่เดือด! MASTER-KLINIQ )
29-05-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ฮอตไลน์สายร้อนรายงานด่วนๆ เรื่อง FTSE ประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่จะมีผล Rebalance ในราคาปิด วันที่ 21 มิ.ย.นี้ โดย FTSE ALL World Index(Large + Mid Cap) Rebalance เป็นการเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย คิดเป็นเม็ดเงินราว +50 ล้านเหรียญฯ(มีผล Rebalance ในราคาปิด วันที่ 21 มิ.ย.นี้) โดยหลักๆ เป็นการเพิ่มน้ำหนัก SAWAD -BGRIM - CPF - MINT เฉลี่ยราว +20 ถึง +10 ล้านเหรียญฯ
***ขณะที่หุ้นเข้า – ออก ในส่วนต่างๆ ดัชนี สรุปได้ดังน้ี
-FTSE Large Cap : ไม่มีหุ้นเข้าและหุ้นออก
-FTSE Mid Cap : ไม่มีหุ้นเข้าและหุ้นออก
-FTSE Small Cap : ไม่มีหุ้นเข้าและหุ้นออก
-FTSE Micro Cap : หุ้นเข้า SAFE, TAN หุ้นออก : ไม่มี
***นั่งอ่านข้อมูลไปเรื่อยๆ แล้วไปสะดุดกับเรื่องนี้..เห็นว่าน่าสนใจดี MASTER VS KLINIQ และคิดว่าแฟนคลับของเจ๊จิ๋มน่าจะอยากรู้เหมือนกัน ..อ่านไปก้อนั่งคิดไปพลางๆ ว่า วันนี้จะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดีนะ..หมัดแลกหมัด ใครเจ๋งกว่ากัน สุดยอดหุ้นความงาม เปรียบมวยคู่เอก สงครามนางฟ้า 55555 คิดไปสารพัด
***สาเหตุเกิดขึ้นด้วยเพราะว่ามีกูรูหุ้นออกมาเปรียบเทียบหุ้นความงามระหว่าง MASTER - KLINIQ หลังจากที่ราคาหุ้นทั้งสองปรับขึ้นแรงงงงงงง โดยข้อสรุปของเค้าคือ
***1) MASTER มีรายได้ต่อบิลสูงกว่า จากบริการหลักที่มาจากการผ่าตัด ศัลยกรรม เทียบกับ KLINIQ ที่บริการหลักคือเรื่องผิวหนังและความ งาม
***2) MASTER มีการลงทุนในธุรกจิ Aesthetic ครบวงจร โดยการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน อาทิ V Square Clinic เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าและเพิ่ม Synergy ระหว่างกัน
***3) สัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติของ MASTER อยู่ที่ 22% โดยเป็นกลุ่ม Fly in เป็นหลัก และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง
***4) MASTER มีแนวโน้มการเติบโตทั้งจากปัจจัย Organic และ Inorganic โดยปัจจัย Organic ได้แก่การเพิ่ม OR จาก 7 ห้องเป็น 17 ห้อง ส่วนปัจจัย Inorganic ได้แก่ การลงทุนในธุรกิจต่างๆ แทนที่จะเริ่มจาก Green Field ที่มีต้นทุนสูงกว่า และ Payback Period นานกว่า
***5) ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายของ MASTER อยู่ที่ 34% ในขณะที่ของ KLINIQ อยู่ที่ 37%
***บทสรุปของเรื่องนี้คือ MASTER มีจุดเด่น ได้แก่ การให้บริการธุรกิจความงามแบบครบวงจร สามารถใช้การซื้อกิจการในการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มส่วนแบ่งกําไรให้กับบริษัท คาดการณ์โมเมนตัมของกําไรทํา New high ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้
***ปิดท้ายกันที่เรื่องของราคาบิทคอย ที่ยังคงทะยานขึ้นไปต่อเนื่อง ตอนนี้มีปัจจัยหนุนคือ 1.) กลต.สหรัฐอนุมัติการ เปลี่ยนแปลงกฎที่จะปูทางให้ Ethruem สามาลงทุนได้สำหรับกองทนุ ETF 2.) อดีตประธานาธิบดี Trump ออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงสนับสนุน Crypto มองหุ้นที่เชื่อมโยง Crypto แบบนี้เป็นตัวส่งผลจิตทยาเชิงบวกให้กับหุ้น BROOK-ZIGA-TTA รักใคร-ชอบใครก้อจัดไปค่ะ