Wealth Sharing
STA ราคาพุ่ง 20% จับตา Q2 พลิกกำไรรอบ 5 ไตรมาส โบรกฯ อัพเกรด “ซื้อ” เพิ่มเป้า 24 บาท
29 พฤษภาคม 2567
ราคาหุ้นบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ในวันนี้ (29 พ.ค.67) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดในตลาดหุ้น
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 พลิกกลับมามีกำไรได้ในรอบ 5 ไตรมาส หนุนจากราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น โดยล่าสุดราคายางอยู่ที่180 Cent/กก. ทำระดับ สูงสุดในรอบ 2 ปี
อีกทั้งมองยาง EUDR จะเป็นปัจจัยหลักที่หนุน การเติบโตของ STA อย่างมีนัยสำคัญต่อจากนี้ โดยบริษัทเห็นสัญญาณของความต้องการที่สูง และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ยางกลุ่มนี้ที่ 50% ในสิ้นปี 2567 และ 80% ภายในปี 2568
ดังนั้นปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567-2568 ขึ้น 26% สะท้อนราคาขายเฉลี่ยที่ดีกว่าเดิมที่ประเมินไว้ และปริมาณขายยาง EUDR ที่สูงขึ้นกว่าคาด
โดยปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 24 บาท และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” แม้ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเด่นในช่วงก่อนหน้า แต่มาจากฐานต่ำและสะท้อน เพียงการฟื้นตัวของผลประกอบการเท่านั้น ยังไม่ได้สะท้อน Upside ของยาง EUDR ที่จะหนุนการ เติบโตของ STA อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีมุมมองบวกจากประชุมนักวิเคราะห์ และปรับคำแนะนำเป็น Trading Buy โดยปรับราคาเป้าหมายปี 2567 มาที่ 20.40 บาท และราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 23.40 บาท
ทั้งนี้ชอบความโดดเด่นในการเข้าหาตลาดยาง EUDR ที่ไทยมีศักยภาพของวัตถุดิบยาง EUDR และ STA เป็นผู้ผลิตยางที่มีระบบข้อมูลเป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตยางล้อยุโรปซึ่งเป็นลูกค้าเดิมของ STA อยู่แล้ว
โดยราคายาง EUDR จะสูงกว่าราคายางธรรมดาราว 14% และ STA ตั้งเป้าสัดส่วนขายยาง EUDR 10% ของปริมาณขายในเดือนก.ค. และเพิ่มเป็น 50% ในเดือนธ.ค. 67 ทำให้แนวโน้มการเติบโตมาร์จิ้นและกาไรสุทธิฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2567 นับว่า STA เป็นหุ้นที่เด่นในกลุ่มเกษตร นอกเหนือไปจาก GFPT
ขณะที่คาดปริมาณขายยางเพิ่มจาก 1.3 ล้านตันในปี 2566 เป็น 1.5 ล้านตันในปี 2567 ส่วนแนวโน้มราคายางแท่งและราคายาง EUDR เพิ่มขึ้นจากความต้องการของอียูและจีน โดยการเพิ่มสัดส่วนยาง EUDR จาก 5%ของปริมาณรวมในไตรมาส 2/67 มาที่ 50% ในเดือนธ.ค.67 ถึงแม้จะ aggressive แต่คาดว่าทิศทางเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่ดีจะช่วยเพิ่ม GPM ให้กับ STA
และ STA เป็นหนึ่งในบริษัทกลางน้ำธุรกิจยางส่งออกที่มีศักยภาพในการผลิตยาง EUDR ที่มีความต้องการสูง จะทำให้ GPM และยอดขาย STA เติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ประเมินไตรมาส 2/2567 จะมีกำไรปกติ 196 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน โดยคาดยอดขายเพิ่ม จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ด้วยราคาขายเพิ่ม จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากความต้องการเพิ่มขึ้นของยุโรป
แต่คาดปริมาณขายที่ 3.2 แสนตันคงที่ จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลผลิตยางน้อยในปลายปี 2566 ส่วนธุรกิจถุงมือฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน โดยคาดธุรกิจถุงมือของ STGT จะมียอดขายเพิ่ม จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากปริมาณขายจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่ราคาขายคาดยังลดจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มจากไตรมาสก่อน
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 พลิกกลับมามีกำไรได้ในรอบ 5 ไตรมาส หนุนจากราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น โดยล่าสุดราคายางอยู่ที่180 Cent/กก. ทำระดับ สูงสุดในรอบ 2 ปี
อีกทั้งมองยาง EUDR จะเป็นปัจจัยหลักที่หนุน การเติบโตของ STA อย่างมีนัยสำคัญต่อจากนี้ โดยบริษัทเห็นสัญญาณของความต้องการที่สูง และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ยางกลุ่มนี้ที่ 50% ในสิ้นปี 2567 และ 80% ภายในปี 2568
ดังนั้นปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567-2568 ขึ้น 26% สะท้อนราคาขายเฉลี่ยที่ดีกว่าเดิมที่ประเมินไว้ และปริมาณขายยาง EUDR ที่สูงขึ้นกว่าคาด
โดยปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 24 บาท และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” แม้ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเด่นในช่วงก่อนหน้า แต่มาจากฐานต่ำและสะท้อน เพียงการฟื้นตัวของผลประกอบการเท่านั้น ยังไม่ได้สะท้อน Upside ของยาง EUDR ที่จะหนุนการ เติบโตของ STA อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีมุมมองบวกจากประชุมนักวิเคราะห์ และปรับคำแนะนำเป็น Trading Buy โดยปรับราคาเป้าหมายปี 2567 มาที่ 20.40 บาท และราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 23.40 บาท
ทั้งนี้ชอบความโดดเด่นในการเข้าหาตลาดยาง EUDR ที่ไทยมีศักยภาพของวัตถุดิบยาง EUDR และ STA เป็นผู้ผลิตยางที่มีระบบข้อมูลเป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตยางล้อยุโรปซึ่งเป็นลูกค้าเดิมของ STA อยู่แล้ว
โดยราคายาง EUDR จะสูงกว่าราคายางธรรมดาราว 14% และ STA ตั้งเป้าสัดส่วนขายยาง EUDR 10% ของปริมาณขายในเดือนก.ค. และเพิ่มเป็น 50% ในเดือนธ.ค. 67 ทำให้แนวโน้มการเติบโตมาร์จิ้นและกาไรสุทธิฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2567 นับว่า STA เป็นหุ้นที่เด่นในกลุ่มเกษตร นอกเหนือไปจาก GFPT
ขณะที่คาดปริมาณขายยางเพิ่มจาก 1.3 ล้านตันในปี 2566 เป็น 1.5 ล้านตันในปี 2567 ส่วนแนวโน้มราคายางแท่งและราคายาง EUDR เพิ่มขึ้นจากความต้องการของอียูและจีน โดยการเพิ่มสัดส่วนยาง EUDR จาก 5%ของปริมาณรวมในไตรมาส 2/67 มาที่ 50% ในเดือนธ.ค.67 ถึงแม้จะ aggressive แต่คาดว่าทิศทางเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่ดีจะช่วยเพิ่ม GPM ให้กับ STA
และ STA เป็นหนึ่งในบริษัทกลางน้ำธุรกิจยางส่งออกที่มีศักยภาพในการผลิตยาง EUDR ที่มีความต้องการสูง จะทำให้ GPM และยอดขาย STA เติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ประเมินไตรมาส 2/2567 จะมีกำไรปกติ 196 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน โดยคาดยอดขายเพิ่ม จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ด้วยราคาขายเพิ่ม จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากความต้องการเพิ่มขึ้นของยุโรป
แต่คาดปริมาณขายที่ 3.2 แสนตันคงที่ จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลผลิตยางน้อยในปลายปี 2566 ส่วนธุรกิจถุงมือฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน โดยคาดธุรกิจถุงมือของ STGT จะมียอดขายเพิ่ม จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากปริมาณขายจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่ราคาขายคาดยังลดจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มจากไตรมาสก่อน