รายงานพิเศษ : IND รับอานิสงส์รัฐเร่งใช้จ่าย-ลงทุน หนุนผลงานปี 67 โตไม่ต่ำกว่า 15%

การกระตุ้นการลงทุนของรัฐบาลในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจไทย  หนุนผลงาน บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND)  รายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15%



แม้หลายสำนักวิจัยจะปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ลง แต่ KKP Research ยังคงตัวเลขการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ที่ 2.6% และคาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะทยอยปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี  โดยเฉพาะการใช้จ่ายภาครัฐที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโต สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ KKP Research ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก จาก 3 ปัจจัยสนับสนุนสำคัญ คือ

1) การเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า และจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี จะส่งผลบวกต่อตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจชั่วคราว โดยการลงทุนภาครัฐในช่วงที่ผ่านมาหดตัวลงประมาณ 20% ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 30% ในไตรมาส 1 ปี 2567 การใช้จ่ายที่จะกลับมาเป็นปกติจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีขึ้นจากปัจจัยด้านฐานต่ำ

2) ภาคการผลิตบางส่วนฟื้นตัวได้ ตามวัฏจักรสินค้าคงคลังที่ทยอยปรับตัวลดลง เช่น การผลิตอาหาร โดยในภาพรวมการส่งออกไทยยังฟื้นตัวได้ในระดับต่ำ

3) จำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยคาดการณ์นักท่องเที่ยวที่ 35.2 ล้านคน จาก 28 ล้านคนในปีก่อน

มุมมองการใช้จ่ายภาครัฐที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ สอดคล้องและสนับสนุนการเติบโตของ บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” เชื่อว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัว 

จากการที่รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผลักดันให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมา รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจ ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15% เทียบกับปีที่ผ่านมา

"บริษัทฯ เชื่อว่าด้วยประสบการณ์งานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และออกแบบพร้อมก่อสร้างในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี เป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ จากภาครัฐและเอกชน ทำให้สามารถคว้างานโครงการต่างๆ ได้ต่อเนื่อง ทำให้มีมูลค่างานในมือเพิ่มมากขึ้นและส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการพร้อมทั้งเตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อเพิ่มช่องทางตลาดใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ รวมถึงรายได้ กำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน" ดร.พรลภัส กล่าว

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567  บริษัทฯมีรายได้รวมเท่ากับ 176.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 169.81 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 7.86 ล้านบาท

ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้รายได้เติบโตเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากบริษัทฯ ทยอยรับรู้รายได้จากงานโครงการออกแบบและพร้อมก่อสร้างใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาหลายโครงการก่อนหน้านี้ อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ประมาณ 1,454 ล้านบาท (ณ สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) และปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคตให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น