Smart Investment

5 เรื่องที่นักลงทุนควรรู้ก่อนลงทุน LTF ความหวังปลุกตลาดหุ้นไทยฟื้นคืนชีพ


02 มิถุนายน 2567
S2T (เว็บ) 5 เรื่องที่นักลงทุนควรรู้ก่อนลงทุน L.jpg

แนวคิดการฟื้นคืนชีพกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF) ของ “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อกระตุ้นตลาดหุ้นไทยให้กลับมาคึกคัก ได้รับการตอบรับจากนักลงทุน ผู้จัดการกองทุน โบรกเกอร์ เพราะจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนใหม่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย


เพราะในปัจจุบันฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยน้อยมาก เทียบกับยอดขายสุทธิในปีที่ผ่านมานับแสนล้านบาทจากข้อมูลของ SCB Chief Investment Office (SCB CIO) พบว่าในช่วง 7 ปีสุดท้ายก่อนที่การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนใน LTF จะหมดลง มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนใน LTF ประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท/ปี 

และหากคิดเป็นยอดเงินลงทุนสุทธิ โดยคำนวณจากเงินที่ไหลเข้ามาลงทุน หักเงินที่ไถ่ถอนหน่วยลงทุนออกไป ก็ยังสูงถึง 2-3 หมื่นล้านบาท/ปี แต่เมื่อการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสิ้นสุดลง ในปี 2562 พบว่ามีเงินไหลออกจากกองทุน LTF ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท/ปี

ขณะที่ยอดเงินคงค้างที่อยู่ในกองทุน LTF โดยรวม ในปี 2562 เคยอยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้านบาท ก็ลดลงไปค่อนข้างมาก โดยเหลือเพียง 2.47 แสนล้านบาท ในเดือนเม.ย. 67 

หากกองทุน LTF กลับมาใช้สิทธิประโยชน์ภาษีได้อีกครั้ง และเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ ก็จะมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท/ปี ซึ่งคาดว่าเงินบางส่วนจะมาจากเงินที่เคยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ และเงินลงทุนใหม่

“กองทุน LTF จะช่วยลดความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทย จากการถูก short sell (การยืมหุ้นมาขายเพื่อทำกำไร เมื่อคาดว่าหุ้นนั้นจะปรับตัวลดลง) เนื่องจากเวลาที่หุ้นปรับตัวลดลง นักลงทุนก็จะมีแรงซื้อกองทุน LTF เข้ามาช่วยพยุงตลาดให้ปรับตัวดีขึ้นได้” 

อีกทั้ง LTF จะช่วยเพิ่มมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ทำให้สภาพคล่องการซื้อขายดีขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้นด้วย
สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาของกองทุน LTF นั้น มองว่าเป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET100 (หุ้น 100 บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในตลาด) เนื่องจากหุ้นเหล่านี้มีสภาพคล่องการซื้อขายสูง มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี สามารถถือลงทุนระยะยาวได้ อีกทั้งหุ้นหลายตัวใน SET100 เป็นหุ้นที่ให้เงินปันผลค่อนข้างดี และจากสถิติในอดีตพบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศ นิยมถือครองหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก

สัปดาห์นี้ Mr.Data ชวนนักลงทุนหาคำตอบว่า ก่อนตัดสินใจลงทุนกองทุน LTF เพราะมีหลายเหตุผลที่ต้องพิจารณาก่อนการลงทุน LTF

เริ่มจาก 1.การถือครอง เพราะกองทุน LTF ต้องถือครองไปจนครบ 5 ปี ปฏิทิน ตามเงื่อนไขของกองทุน แน่นอนว่าไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเงินสดในระยะเวลาสั้นๆ
2.ค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขาย เพราะกองทุนมีค่าธรรมเนียม หากขายก่อนครบกำหนด
3.ผลตอบแทน ควรตรวจสอบผลตอบแทนของกองทุน LTF ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ
4.สถานะการเงิน ควรพิจารณาว่ามีเงินเก็บเพื่อซื้อกองทุน LTF ใหม่หรือไม่
และ 5.เป้าหมายการลงทุน ควรพิจารณาว่าการลงทุนในกองทุน LTF ตรงกับเป้าหมายการเงินหรือไม่ รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน

มองโลกในแง่ดี ตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงปรับฐาน ความเสี่ยง “ขาลง” เริ่มจะน้อยลง การฟื้นคืนชีพกองทุน LTF เพื่อชุบชีวีตลาดหุ้นไทยในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่มีแต้มต่อเรื่องของสิทธิภาษี และอัพไซด์จากมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น แลกกับการลงทุนยาว 5 ปี ก็ถือว่า “คุ้ม”

…อย่าลืม “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินในลงทุน” เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนยัง “ติดดอย” กองทุนเพียบ!!!

5 เรื่องที่นักลงทุนควรรู้ก่อนลงทุน LTF-01_0.jpg