จับประเด็นหุ้นเด่น

สัมภาษณ์พิเศษ : “พิชญา ตันโสด” CEO RICHY เปิดกลยุทธ์นำพาบริษัทผ่านวิกฤติอสังหาฯ


04 มิถุนายน 2567
“พิชญา ตันโสด”  ทายาทรุ่น 2  ของ บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY)  จะมีมุมมองเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ รวมถึงกลยุทธ์ในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ไปติดตามจากบทสัมภาษณ์นี้

สัมภาษณ์พิเศษ RICHY copy.jpg

ภาพธุรกิจของ RICHY 

เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีวัฎจักรที่รายได้มีการปรับเพิ่มขึ้นและลดลง โดยในช่วงที่มีการโอนมาก บริษัทก็จะมีรายได้เข้ามามาก แต่หากในช่วงที่ไม่มีการโอนก็จะมีรายได้เข้ามาน้อย  ดังนั้นเพื่อสร้างแหล่งรายได้ประจำ  ปัจจุบันบริษัทจึงขยายธุรกิจเป็น 4 ด้าน ได้แก่  

1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับการปล่อยเช่า 

2. Community Mall 

3. ธุรกิจห้องเช่า

4. คลีนิคเพื่อสุขภาพ  และความงาม


มาตรการอสังหาฯรัฐบาลช่วยหนุนกำลังซื้อ

เป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์ ตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น แต่มาตรการเรื่องลดภาษี และค่าใช้จ่ายยังไม่ได้ช่วยกระตุ้นได้มาก  หรือเมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อแล้ว แต่จะโอนได้หรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาของธนาคารและประวัติของลูกค้า  ดังนั้น  RICHY จึงได้ออกโปรโมชั่น On Top ในการให้ส่วนลดเพิ่มอีก 30,000 บาท/ห้อง เพื่อกระตุ้นการโอนของลูกค้า  

มองหนี้ครัวเรือนสูงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง 

จริงๆหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับที่สูงถือว่าน่าเป็นห่วง ซึ่งหากยังอยู่ระดับสูงจะทำให้การกู้เงินเพื่อซื้อปัจจัยสี่ หรือซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ขึ้น และจำเป็นเป็นไปได้ยาก ทำให้กระทบต่อการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน  

การดูแลลูกค้าในช่วงที่สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อยาก

สำหรับบริษัทเรา เมื่อเริ่มเห็นว่าลูกค้าไม่สามารถขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ ขณะที่ยังมีความต้องการซื้อ RICHY จึงได้ออกแนวทางเพื่อช่วยเหลือลูกค้า โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ลูกค้าต้องการซื้อ แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ บริษัทก็จะนำมาทำในลักษณะปล่อยเช่า โดยลูกค้าสามารถนำค่าเช่าเหล่านี้มาเป็นส่วนลดเงินดาวน์ จะช่วยลดราคาจ่ายค่าห้อง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

โครงการIP Program ส่งผลดีต่อลูกค้า

IP Program ย่อมาจาก Investment Property Program เป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบที่ปล่อยเช่า ได้  มีคนดูแล สถานที่การเช่าการดำเนินการต่างๆให้กับเรา  คือเจ้าของห้องที่มาลงทุน ไม่ต้องเหนื่อยในการดูแลห้องอีกต่อไป  ซึ่งต่างจากในอดีตที่การปล่อยเช่าห้อง  เจ้าของห้องจะต้องตกแต่งเอง  ซื้อเฟอร์นิเจอร์เอง ตามราคาค่าเช่า หรือทำสัญญาเช่าเอง  แต่ในรูปแบบใหม่นี้ จะมีคนบริหารจัดการให้ แต่เราสามารถรับรู้ผลตอบแทนแบบการันตีได้ที่ 7% เป็นเวลา 3 ปี หลังจากนั้นจะรับรู้รายได้ ตาม Performance จริงที่เกิดขึ้น ซึ่งปกติจะได้รับผลตอบแทนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

นักท่องเที่ยวต่างชาติหนุนยอดจองโรงแรม 

RICHY  มีธุรกิจ 4 ด้าน 1. ธุรกิจโรงแรม 2. ที่อยู่อาศัย 3.Community  Mall1 และ 4. ธุรกิจสุขภาพ
ซึ่งแน่นอนว่า การกลับมาของนักท่องเที่ยวในรอบนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจการท่องเที่ยวที่เราทำโรงแรมอย่างมาก ได้อานิสงส์ที่ดี  โดยหลังโควิดจบ ได้เราเปิดตัวโรงแรมที่ได้รับการตอบที่ดีมียอดจองห้องพักสูงถึง 90% รวมทั้งนโยบาย Medical Hub ทำให้การท่องเที่ยวที่อยู่อาศัยได้รับประโยชน์ 

ตลาดคอนโดมิเนียมปีนี้ยังเติบโต 

ปีนี้คาดว่าจะเติบโตน้อย แต่ยังเติบโต โดยคาดว่าครึ่งปีหลังน่าจะมีอะไรที่เป็นบวกมากขึ้น จากนโยบายของภาครัฐที่เริ่มกระตุ้น  และงบประมาณภาครัฐน่าจะปรับตัวดีขึ้นมีการเบิกจ่ายได้มากขึ้น ส่วนต่างประเทศเรื่องสงคราม คนน่าจะรับรู้ข่าวไปแล้ว  ด้านทิศทางดอกเบี้ยเรามองว่าน่าจะอยู่จุดสูงสุดแล้ว และแนวโน้มน่าจะเป็นขาลง  คาดว่าจะเริ่มปรับดอกเบี้ยลงในไตรมาส 4    

กลยุทธ์การทำธุรกิจปีนี้

ปีนี้จะไม่ลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ แต่จะเน้นลงทุนในธุรกิจใหม่ของเรา เช่น ห้องเช่าและเงินลงทุนที่เอามาแต่งห้อง  เงินลงทุนที่นำมาทำโรงแรม  ทำธุรกิจ Retail  

จับมือพันธมิตรลุยธุรกิจเกี่ยวข้องสุขภาพ

ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เราไม่ได้ร่วมมือกับใคร แต่มีการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยบริหารจัดการ  แต่ส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพเราได้เป็นพันธมิตรกับกลุ่มเองตระกูล โดยการตั้งบริษัทเพื่อทำคลีนิคร่วมกันในโครงการของRICHY  ซึ่งจะเป็นกลุ่มโรงแรม ทำให้โรงแรมของRICHY ไม่ใช่โรงแรมทั่วไป แต่จะเป็น Wellness โดยเป็นการพักผ่อนในโรงแรมที่มีบริการด้านสุขภาพ  หรือเป็นการขายแพ็คเกจสุขภาพพร้อมห้องพัก ซึ่งโรงแรมที่จะนำร่องเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้รพ.บำรุงราษฎร์  ทำให้มีความพร้อมที่ให้บริการลูกค้า และเข้ากับMedical Tourism   

สัดส่วนรายได้ของบริษัท

ปัจจุบันรายได้หลักประมาณ 90% มาจากที่อยู่อาศัย บ้านและคอนโดมิเนียม แต่ในอนาคตคาดว่า รายได้จากที่อยู่อาศัยในปี 2568 จะอยู่ที่ 80% และในปีต่อๆไปจะลดเหลือ 70% โดยในส่วนของธุรกิจใหม่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะไม่เปิดโครงการใหม่ แต่จะไปเน้นในด้านของธุรกิจใหม่ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว สุขภาพและความงาม และพลังงานทดแทน 

เป้าหมายผลการดำเนินงานปีนี้

ปีนี้เราตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะเรามีโครงการที่จะสร้างเสร็จและมีการโอนเข้ามา เพื่อรับรู้รายได้ประมาณ 800 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ทำให้มีเงินก้อนใหญ่เตรียมเข้ามาในไตรมาส 4 รวมกับเครื่องยนต์อื่นๆอีก 4 ตัวที่สร้างรายได้ได้ดี โดยทั้ง 4 ตัว เติบโตเกือบ 300%

การออกหุ้นกู้ของบริษัท 

หุ้นกู้ RICHY ที่จะเสนอขาย เป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปี 9 เดือน  อัตราดอกเบี้ย 7.1% กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีหลักประกัน คือ โครงการเดอะริช @ สาทรตากสิน ใกล้สถานี วงเวียนใหญ่ และ โครงการริชพาร์ค @ พหลโยธิน 0 เมตร ติดสถานีรถไฟฟ้า พหลโยธิน  ซึ่งมีมูลค่าของทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 1.20 เท่า ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ขายได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นกู้ให้กับนักลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่ คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 10 - 12 มิถุนายน 2567 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนหุ้นกู้เดิมในเดือนสิงหาคม 2567 และที่สำคัญบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและไม่เคยผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้หรือดอกเบี้ย หรือผิดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้แต่อย่างใด