BTS ดิ่งต่อ! นักวิเคราะห์ชี้เป็นโอกาส “ซื้อ” คาดผลงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

ราคาหุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ในวันนี้ (4 มิถุนายน 2567) ล่าสุดปรับตัวลดลงกว่า 3% โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา BTS ประกาศผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 66/67 มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 5,241 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพลิกขาดทุนสุทธิจากงวดปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ 1,800 ล้านบาท



ล่าสุดนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินภาพในปี 2568 ฟื้นตัวจากรายการพิเศษที่ลดลงจากปีก่อนมีรายการพิเศษที่เป็นลบ 4,408 ล้านบาท จากการขาย KEX และด้อยค่าเงินลงทุนอื่นๆและรับรู้ขาดทุนจากบริษัทร่วมลดลงจากการขายKEX และRABBIT ที่ปีก่อนรับรู้ขาดทุนและด้อยค่าใน SINGER 

ประกอบกับ VGI มีทิศทางที่ดีขึ้นบอร์ดมีมติล้างขาดทุนสะสมในงบเฉพาะกิจการที่ 3,284 ล้านบาท โดยนำสำรองตามกฎหมายมากลบซึ่งจะส่งผลดีหากในปี2568 กลับมามีกำไรจะสามารถจ่ายปันผลได้เร็วและประกาศเพิ่มทุน(General Mandate ที่ 650 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นปกติที่ขอไว้ทุกปี เพื่อความยืดหยุ่นทางการเงิน อย่างไรก็ตามมองราคาหุ้นปรับตัวลงมามากแนะนำ“ซื้อ”จะปรับประมาณการหลังประชุมนักวิเคราะห์

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด มองว่าผลประกอบการ BTS น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปีที่แล้วเนื่องจาก 1. คาดไม่มีการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนมากเหมือนปีที่แล้วอีก, 2. ธุรกิจ MOVE มีรายได้ที่สม่ำเสมอจากรับจ้างเดินรถ และส่วนแบ่งกำไรจาก BTSGIF ที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้โดยสาร, 

3. ธุรกิจ MIX คาดจะดีขึ้นตามรายได้สื่อโฆษณาที่เติบโตและไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX อีก, และ 4. ธุรกิจ MATCH คาดส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในแรบบิทโฮลดิ้งส์กับ JMART มีแนวโน้มจะลดลง 

แต่อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรจะยังคงอ่อนแอ จากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูที่จะยังขาดทุนจาก Financing Cost ประมาณ 1.6 พันล้านบาท/ปี และต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีกว่าที่จะถึงระดับ Break even โดยจะปรับประมาณการกำไร มูลค่าที่เหมาะสมและคำแนะนำหลังประชุมนักวิเคราะห์ปลายสัปดาห์