จิปาถะ

Digital Wallet ใครได้ก่อน ล็อตแรกแจก 14.98 ล้านคน


05 มิถุนายน 2567
Digital Wallet.jpg

"เงินดิจิทัล 10,000 บาทใครได้ก่อน" นี่ยังเป็นคำถามที่หลายคนคาใจ ซึ่งล่าสุดมีรายงานจาก นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบรายละเอียดวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินสำหรับใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตตามนโยบายรัฐบาล


"โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet" โดยเบื้องต้นเพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการทันภายในปีงบฯ 2567 ซึ่งจะสิ้นสุดภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 ใครที่รอรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตตามนโยบายรัฐบาลสามารถเช็ครายละเอียดต่างๆ ได้กับไทยนิวส์วันนี้ ซึ่งได้บอกมาแล้วว่าจะแจกใครก่อน

ความคืบหน้าการลงทะเบียนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ออกเกณฑ์การลงทะเบียนร้านค้า ซึ่งคณะกรรมการกำกับฯ กำลังหาเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุด ง่ายที่สุดต่อประชาชน โดยเฉพาะร้านค้ารายเล็ก เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ตามตลาด และคนขายของได้รับเงินในโครงการนี้ เข้าสู่กระบวนการลงทะเบียนได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้คณะกรรมการกำกับโครงการฯ จะประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ทุกมิติ โดยจะดูในเรื่องของการเชื่อมระบบ Open Loop ให้ธนาคารหรือธุรกิจกระเป๋าเงินต่าง ๆ ที่จะเข้ามาเชื่อม มีความเข้าใจในตัวระบบที่จะเข้ามาเชื่อมกัน โดยจะมีการสร้างความรู้ความเข้าใจในการเชื่อมกันทางเทคนิคด้วย

สำหรับการจัดเตรียมงบประมาณครั้งนี้ เป็นผลมาจากมติครม. เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 เห็นชอบในหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยใช้จ่ายจาก 3 แหล่งเงิน ได้แก่

การบริหารงบประมาณ ปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท
การดำเนินการผ่านหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท
งบประมาณ ปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท

การดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะต้องลงทะเบียนผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการให้ทันภายในปีงบประมาณ 2567 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบฯ เพิ่มเติมปี 67 ได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 และสอดคล้องตาม ม. 21 ของ พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการทันภายในปีงงบประมาณ 2567 จึงอาจพิจารณาผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการที่เป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.98 ล้านคน ตามขั้นตอนในโอกาสแรกก่อน

ที่มา : https://www.tnews.co.th/social/social-news/609581