Wealth Sharing

“กลุ่มเจมาร์ท” สูงสุดสู่สามัญ! เมื่อมาร์เก็ตแคป และราคาหุ้น ติดลบกว่า 80%


06 มิถุนายน 2567
กลุ่มหุ้นตระกูลเจมาร์ทเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวอย่างร้อนแรงตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดในวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มก็ได้มีการปรับลดลงอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ

WS (เว็บ)_กลุ่มเจมาร์ท copy.jpg

ดังนั้น ในวันนี้เราสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลราคาหุ้นและมูลค่ามาร์เก็ตแคปของกลุ่มเจมาร์ทตั้งแต่จุดสูงสุดมาถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2567) ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด

เริ่มกันที่ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ราคาหุ้นได้ทำจุดสูงสุดไปวันที่ 12 เมษายน 2565 ในราคาหุ้น 63.25 บาท จนถึงปัจจุบันราคาหุ้นได้ปรับลดลงกว่า 81.64% มาอยู่ที่ 11.20 บาท และมาร์เก็ตแคปจาก 89,450 ล้านบาท    ลดลงมาอยู่ที่ 16,328 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 81.74%

ถัดมาเป็นบริษัทลูกอย่าง บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ที่ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดไปวันที่ 29 เมษายน 2565 ในราคา 87 บาท ซึ่งทิศทางในปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงถึง 83.56% มาอยู่ที่ 14.10 บาท ขณะที่มาร์เก็ตแคปจากระดับ 124,855 ล้านบาท ก็ลดลงกว่า 83.51% มาอยู่ที่ 20,582 ล้านบาท

อีกหนึ่งบริษัทลูกอย่าง บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J  ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นก็ได้ทำจุดสูงสุดในวันที่ 21 เมษายน 2565 ราคาหุ้นที่ 5.08 บาท จนมาถึงปัจจุบันก็ได้มีการปรับตัวลดลง 65.24% มาอยู่ที่ 1.64 บาท  และมาเก็ตแคปจาก 4,917 ล้านบาท ก็ได้ปรับลดลงราว 51.29% มาอยู่ที่ 2,395 ล้านบาท

ด้านบริษัทลูกอีกหนึ่งตัว บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ราคาหุ้นก็ได้ทำจุดสูงสุดไปในวันที่ 25 เมษายน 2565 ราคาหุ้นที่ 58.75 บาท และมาจนถึงปัจจุบันก็ได้มีการปรับตัวลดงถึง 86.47% มาอยู่ที่ระดับ 7.85 บาท ส่วนมาร์เก็ตแคปจากระดับที่ 47,985 ล้านบาท ก็ได้ลดลงมาอยู่ที่ 6,507 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86.43%

และสุดท้ายบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ที่ราคาหุ้นได้ทำจุดสูงสุดไปในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 จนถึงปัจจุบันก็ได้ปรับตัวลดลงมากว่า 66.92% มาอยู่ที่ 1.29 บาท ขณะที่มาร์เก็ตแคปก็ได้มาลงมาอยู่ที่ 4,218 ล้านบาท หรือลดลงกว่า 76.11% จากจุดสูงสุดที่ 17,658 ล้านบาท

WS (เพจ)_กลุ่มเจมาร์ท copy.jpg