Wealth Sharing

การเมืองเป็นเหตุ! กดดันหุ้นไทยเข้าจุดเสี่ยง ผวา! รัฐบาลแทรกแซงแบงก์ชาติ


07 มิถุนายน 2567
เดือนนี้การเมืองร้อน! มีหลายประเด็นน่าจับตา ทั้งเรื่องรัฐบาลอาจเข้าแทรกแซง ธปท. ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ต้องจับตากันต่อว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ต่างชาติเทขายต่อเนื่อง ฉุดดัชนีต่ำสุดในรอบ 3 ปีกว่าไปแล้ว

WS (เว็บ) การเมืองเป็นเหตุ!_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า ตลาดกังวลในเรื่องรัฐบาลอาจเข้าแทรกแซง ธปท. อาจทำให้ความกังวลในเรื่องการลดดอกเบี้ยของไทยกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่ถ้าราคาหุ้นธนาคารลงมามากๆ จน yield น่าสนใจ แนะนำให้เก็บ SCB แถวๆ ราคา 102-103 บาทไว้

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การเมืองพาลง…หุ้นไทยเข้าจุดเสี่ยง” โดยในเดือนมิ.ย. 2567 บรรยากาศความไม่แน่นอนทางการเมืองเริ่มกลับเข้ามากดดัน Sentiment ตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง เนื่องจากจะมี 3 ปัจจัยใหญ่ทางการเมืองที่อาจส่งผลเปลี่ยนแปลงถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้  

โดยทั้ง 3 ปัจจัยประกอบไปด้วย  1.ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล กรณีเสนอแก้ไข ม.112 ตามด้วย  2. ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กรณีคำร้องของ 40 ส.ว. และ 3. อัยการเตรียมส่งฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ในคดีความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สำหรับมุมมองและผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย โดยให้น้ำหนักกับประเด็นการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี 

1.หากนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ทางฝ่ายประเมินว่าดัชนี SET Index ในช่วงต้นอาจจะมี Sharply Dip ลงไปแตะแถว 1,280-1,290 จุดได้ แนะนำลงทุนในหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจภายนอกและหุ้นในกลุ่ม Defensive

2. หากนายกรัฐมนตรียังอยู่ในตำแหน่ง คาดว่าความกดดันปัจจัยการเมืองจะคลี่คลายในระยะสั้น ส่งผลให้ SET Index รีบาวด์ไปทดสอบแนวต้านแถว 1,385-1,400 จุด แนะนำลงทุนในหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจภายในประเทศ

นอกจากนี้บลูมเบิร์กชี้ความเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศไทยยังคงทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในพันธบัตรของไทย ทำให้เม็ดเงินกองทุนต่างชาติไหลเข้าซื้อพันธบัตรของไทยเพียง 511ล้านดอลลาร์ในเดือน พ.ค. ต่ำกว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดอินเดียและเกาหลีใต้

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มีความเห็นว่า หลังเดือน มิ.ย.67 SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากทิศทางที่ชัดเจนของการเมืองไทย และความหวังที่จะมีกองทุน LTF เข้ามาหนุนตลาดฯเพิ่มเติม 

ขณะที่ VALUATION ตลาดหุ้นไทยอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจทั้งในมุม PE/PBV/EPS GROWTH เป็นต้น แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ขนาดใหญ่เพื่อหวังผลกำไรระยะกลาง-ยาว อาทิ SCC PTTEP ADVANC DELTA CPALL KBANK เป็นต้น

ดังนั้น การเมืองที่น่ากังวลในเดือนนี้ กดดัน FLOW ต่างชาติไหลออกหุ้นไทย 11 วันติดต่อกัน รวมมูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และส่งผลให้ SET ปรับตัวลงแรง 50 จุด 
อย่างไรก็ตามหากประเด็นการเมืองผ่อนคลายลง อาจจะเป็นจังหวะในการหาหุ้นเข้าสะสมเพื่อหวังผลในระยะกลางถึงยาวได้ เนื่องจาก VALUATION SET INDEX ถูกกว่าตลาดหุ้นโลก แนะนำ SCC PTTEP ADVANC DELTA CPALL KBANK เป็นต้น