เปิดสัญญาผูกมัด “อดิศักดิ์” ต้องวิ่งโร่หาเงินจ่าย 4 พันล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น SINGER คืนจาก RABBIT

ก่อนหน้านี้บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัทวันที่ 28 ก.พ. 67 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER กับนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา เพื่อจำหน่ายหุ้นสามัญของ SINGER ในส่วนที่บริษัท ถืออยู่จำนวน 195,165,296 หุ้น ในราคาหุ้นละ 20 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,903,305,920 บาท ภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่เงื่อนไขการมีผลของสัญญา หรือวันที่คาดว่าจะทำธุรกรรมแล้วเสร็จภายในปี 2570



ทั้งนี้ หากผู้ซื้อมิได้ดำเนินการซื้อหุ้นที่ซื้อขายทั้งหมดภายในระยะเวลาของสัญญา ผู้ซื้อมีหน้าที่ชำระค่าปรับให้แก่บริษัทฯ จำนวน 400 ล้านบาท หรือในจำนวนที่ลดลงตามสัดส่วน หากบริษัทมีการขายหุ้นที่ซื้อขายออกไป ภายใต้ข้อตกลงและเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายหุ้น

อีกทั้ง ภายในระยะเวลาของสัญญา หากราคาตลาดของหุ้นที่ซื้อขายสูงกว่า 20 บาท เป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหลักทรัพย์ติดต่อกัน (และผู้ซื้อยังมิได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นที่ซื้อขายจนครบถ้วน) บริษัทอาจเสนอขายหุ้นทั้งหมด หรือบางส่วนให้แก่ผู้ซื้อ หากผู้ซื้อปฏิเสธไม่ซื้อหุ้นดังกล่าว บริษัทมีสิทธิขายหุ้นที่ถูกปฏิเสธให้แก่บุคคลภายนอกภายใต้ข้อตกลงและเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายหุ้น

สำหรับหลักประกัน ผู้ซื้อตกลงจำนำหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเท่ากับ 450 ล้านบาท เป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายหุ้น ภายใต้ข้อตกลงและเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายหุ้น

ด้านนาย อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยถึง มุมมองธุรกิจของ SINGER อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงระบบ ทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับ การเติบโตในอนาคต โดยบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC  ในฐานะบริษัทลูก ได้ดำเนินการโครงการ SG Finance+ สินเชื่อโทรศัพท์มือถือในแคมเปญ Locked Phone ซึ่งที่ผ่านมายอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย ภายหลังจากที่ได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา 

พร้อมกับยังมั่นใจธุรกิจของ SINGER มีโอกาสเทิร์นอะราวด์ที่มั่นคงกว่าอดีต ด้านยอดขายในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นราว 30% จากการขายแอร์ได้มากยิ่งขึ้นช่วงหน้าร้อน และมีการนำกลุ่มจักรยานไฟฟ้าเข้ามาในไตรมาส 2 เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพิ่มเติม ควบคู่การบริหารจัดการสต็อกสินค้าและการลดสินค้ามือสองตามแผนงานที่วางไว้”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา นาย อดิศักดิ์ ได้ซื้อหุ้น SINGER ในราคา 8.10 บาท จำนวน 100,000 หุ้น เป็นเงิน 0.81 ล้านบาท รวมถือหุ้นเพิ่มเป็น 1,746,894 หุ้น สะท้อนความมั่นใจหุ้น SINGER ส่งสัญญาณผลงานดีต่อเนื่อง และเป็นการซื้อหุ้นคืนนอกเหนือดีลที่ตกลงกับบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT 

อย่างไรก็ดี ตามที่มีข่าวของ RABBIT ซึ่งเป็นบริษัทภายในกลุ่ม BTS มีโอกาสกำไรจากการขายหุ้น SINGER นั้น เป็นไปตามแผนที่ประกาศไปในช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 RABBIT ได้อนุมัติรายการการขายหุ้น SINGER ที่ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน ประมาณ 195.1 ล้านหุ้น ที่ราคา 20 บาทต่อหุ้น 

โดยธุรกรรมดังกล่าว คุณอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา จะมีสิทธิซื้อหรือให้สิทธิกับบุคคลอื่นที่จะซื้อหุ้น SINGER ทั้งหมด ประมาณ 195.1 ล้านหุ้น ที่ RABBIT ถืออยู่ที่ราคา 20 บาท ภายใน 3 ปี สิ้นสุดปี 2570 ตามเงื่อนไขของสัญญา รวมมูลค่าประมาณ 3,903 ล้านบาท นับเป็นการตอกย้ำความมั่นใจของคุณอดิศักดิ์ ถึงความมั่นใจในธุรกิจของ SINGER