Talk of The Town

"ชูเกียรติ" ทยอยทิ้งหุ้น SABUY ต่อ ล่าสุดขายอีก 50 ล้านหุ้น เหลือถือ 2.99% ปล่อยผู้ถือหุ้นเคว้ง-ไร้แผนธุรกิจทุนใหม่


13 มิถุนายน 2567
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ภายหลังยืดอกประกาศลาตำแหน่ง ซีอีโอ SABUY ไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ว่าผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หลังจากเจ้าตัวเคยให้คำมั่นสัญญาว่า ยอดขายของกลุ่ม SABUY ในปี 2566 ว่า ตั้งเป้าหมาย 20,000 ล้านบาท แต่สุดท้าย ทำได้ 9,600 ล้านบาท

ชูเกียรติ ทยอยทิ้งหุ้น SABUY ต่อ copy_0.jpg

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ต้องประกาศอำลาตำแหน่ง พร้อมโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก SABUY CEO “ผมขอรับผิดชอบในคำพูดที่ให้ไว้กับนักลงทุน โดยการลาออกจากทุกตำแหน่งในฝ่ายบริหารเหลือแต่ตำแหน่งกรรมการใน Sabuy”

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว Share2Trade ได้สำรวจข้อมูลแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของ SABUY ผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พบว่า นับตั้งแต่ที่ นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประกาศลาตำแหน่งดังกล่าวของ SABUY มีการทยอยขายหุ้น SABUY ออกมาอย่างต่อเนื่อง 

โดยรายงานเมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 นายชูเกียรติ ได้ขายบิ๊กล็อต SABUY ให้กับ บริษัท มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำการซื้อหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จำนวนรวม 30,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.7% ในราคาหุ้นละ 4.5 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 135 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย.67 นายชูเกียรติ ได้ขาย SABUY อีกจำนวน 40,759,700 หุ้น ผ่าน ต.ล.ท. โดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
หลังจากนั้นวันที่ 10 เม.ย.67 นายชูเกียรติ ได้ขาย SABUY อีกจำนวน 12,988,200 หุ้นผ่าน ต.ล.ท. โดยผ่านบริษัท หลักทรัพย์จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ขณะเดียวกันในวันที่ 16 พ.ค.67 นายชูเกียรติ ได้ขาย SABUY อีกจำนวน 39,000,000 หุ้น โดยซื้อขายกันโดยตรง นายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ โดยเป็นนักธุรกิจผู้ก่อตั้งและผู้บริหารกิจการรับฝากสิ่งของ บริษัท ลอคค์ บอกซ์ กรุ๊ป จำกัด

ล่าสุดวันที่ 10 มิ.ย.67  นายชูเกียรติ ได้ขาย SABUY อีกจำนวน 40,000,000 หุ้น ผ่าน ต.ล.ท. โดยผ่านบริษัท หลักทรัพย์จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ทำให้เหลือการถือครองหุ้น SABUY เพียงแค่ 50,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 2.99% เท่านั้น

ดังนั้นต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ต่อจากนี้ นายชูเกียรติ รุจนพรพจี จะมีการขายหุ้นออกมาอีกหรือไม่ และท้ายที่สุดจะเหลือการถือหุ้นใน SABUY แค่ไหน เพราะนายชูเกียรติ ถือเป็นหัวหอก และผู้สร้างอาณาจักร SABUY จนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย