Talk of The Town

เปิดรายชื่อ 5 หุ้น โดนโบรกฯ สั่งขายมากสุด


14 มิถุนายน 2567

ในช่วงที่สถานการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากปัจจัยรุมเร้ารอบด้าน ก็ได้ส่งผลให้หุ้นรายตัวปรับตัวลงหรือพักฐานลงมาด้วยเช่นกัน จึงทำให้นักวิเคราะห์ก็มาให้คำแนะนำสะสมหุ้นที่น่าสนใจ แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังมีหุ้นรายตัวที่ยังถูกแนะนำ “ขาย” ออกมา

S2T (เว็บ) เปิดรายชื่อ 5 หุ้น.jpg

ดังนั้น ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลคำแนะนำหุ้นรายตัวจากนักวิเคราะห์ใน www.settrade.com ที่มีแนะนำขายมากที่สุด จำนวน 5 บริษัท พร้อมกับยกตัวอย่างที่มาหรือสาเหตุของคำแนะนำ มาไขข้อสงสัยและคำตอบให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนกันในครั้งนี้

เริ่มกันที่บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH มีนักวิเคราะห์แนะนำ ขาย ถึง 8 ราย มีแนะนำ ถือและ ขายอย่างละ 1 ราย ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ก็ได้ให้มุมมองว่าจากการแข่งขันที่รุนแรงและการเครียโครงการพร้อมขาย ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้น

โดยจากปัจจัยข้างต้น จะเป็นแรงกดดันต่ออัตรากําไรขั้นต้น จึงมีความคาดหวังที่ค่อนข้างต่ำสำหรับ PSH ในปีนี้และปีหน้า นอกจากนี้ ราคาหุ้นในปัจจุบันที่มีมูลค่าสูงเกินไปที่ 82% สูงกว่า PER ระยะยาว จึงเเนะนําให้นักลงทุน ขาย ราคาเป้าหมายที่ 9.5 บาท

ถัดมาเป็นบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN นักวิเคราะห์แนะนำ “ขาย” จำนวน 8 ราย และ แนะนำ “ถือ”เพียง 1 ราย ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า อยู่ระหว่างทบทวนสมมติฐานปี 2567และ 2568 เบื้องต้นปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 ลง 15-20% เป็น 430-466 ล้านบาท

โดยยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์(Backlog) แนวสูงที่รับรู้ในปี 2567 อยู่ในระดับต่ำและรายได้ส่วนใหญ่จึงต้องพึ่งพาการระบายสินค้าคงคลังเดิมเป็นหลัก จึงแนะนำ “ขาย” หรือให้ชะลอการลงทุนและสลับการลงทุนไปยังหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการเด่นหรือให้ผลตอบแทนเงินปันผลในระดับที่สูงกว่า

ต่อมาเป็น บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ที่นักวิเคราะห์แนะนำ “ขาย” อยู่ที่ 4 ราย และมีแนะนำ “ถือ” เพียง 1 ราย นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เนื่องจากระยะสั้นกำไรมีโอกาสเหวี่ยง จากปรับโครงสร้างธุรกิจและมีปัจจัยลบเฉพาะตัวจากผลขาดทุนของธุรกิจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ นอกจากนี้ มูลค่าหุ้นในปัจจุบันที่ซื้อขาย P/E อยู่ที่ 82 เท่า สูงกว่า P/E เฉลี่ย 38เท่า ของกลุ่มรพ. จึงเป็นระดับแพงสุดในกลุ่ม

ถัดมา บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX โดยนักวิเคราะห์แนะนำ ขายอยู่ที่ 3 ราย และแนะนำ ถือเพียง 1 ราย ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)  เนื่องจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 ยังคงมีผลขาดทุนต่อเนื่อง และปริมาณขนส่งที่ลดลง

ด้วยปริมาณขนส่งที่ยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน ส่งผลให้มีผลขาดทุนจํานวนมากต่อเนื่อง 3 ปีที่ 3.9 พันล้านบาท /2.8 พันล้านบาท และ 2.4 พันล้านบาท ในปี 2567- 2569  ซึ่งคาดว่า KEX จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2571 รวมไปถึงฐานทุนของ KEX จะพลิกมาติดลบในครึ่งปีหลังปี 677 และจําเป็นต้องเพิ่มทุน จึงแนะนํา “ขายราคาเป้าหมายที่ 2.5 บาท

สุดท้ายเป็นอีกหนึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกนักวิเคราะห์แนะนำ “ขายอยู่ที่ 2 ราย และแนะนำ ถืออยู่ที่ 1 ราย ก็คือบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ANAN ยังต้องลดราคาคอนโดมิเนียม เพื่อระบายสต๊อกและนำเงินมารักษาสภาพคล่อง ซึ่งจะกดดันผลงานให้อ่อนแอและขาดทุนต่อเนื่องในปีนี้

รวมไปถึงมีประเด็นที่ต้องติดตามต่อคือ “ความคืบหน้าของ Ashton Asoke” เพราะจะมีผลต่อฐานะการเงิน และความสามารถในการ rollover หุ้นกู้ชุดถัดไปตอน มกราคม 2568 อีกราว 3 พันล้านบาท จึงให้คำแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย  0.75 บาท

เปิดรายชื่อ 5 หุ้น-01.jpg