BM โชว์งบปี 65 กวาดรายได้รวม 1.3 พันล้านบาท บอร์ดใจดีจ่ายปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น เป็นเงินกว่า 51 ล้านบาท พร้อมแจกวอร์แรนท์ BW-W3 ปักธงปี 66 โตต่อเนื่องทุกกลุ่มธุรกิจ-เน้นขยายตลาดส่งออก เตรียมกดปุ่มเปิดเดินเครื่องโรงงานเขต Freezone ภายในครึ่งปีแรก สร้างฐานการเติบโตแข็งแกร่ง
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,305.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.56 ล้านบาท หรือ 14.13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 55.13 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตที่ดีในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะการส่งออกที่มียอดขายเติบโตเป็น 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 230 ล้านบาท หรือ 104.55% รวมถึงการผลิตสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กต่าง ๆ โดยเฉพาะการรับผลิตโครง “ตู้เต่าบิน” ซึ่งเป็นตู้คาเฟ่อัตโนมัติ จากกลุ่มบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH และงานในหมวดของราง-ท่อร้อยสายไฟ จากโครงการเมกะโปรเจคต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน
“ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะยอดส่งออกที่มีการเติบโตกว่า 100% และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการผลิตชิ้นงานอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เตรียมจะขยายโรงงานการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตทั้งยอดการสั่งจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2B (Business-to-Business) , การรับงานผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อ (OEM) , การได้รับผลประโยชน์จากการจัดตั้งโรงงานในเขตปลอดอากร (Free Zone-ฟรีโซน) ที่เตรียมเปิดเดินเครื่องในเร็ว ๆ นี้ และการรับรู้รายได้จากงานใหม่ ๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอานิสงส์บวกต่อบริษัทในปี 2566” นายธานิน กล่าว
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจปี 2566 บริษัทฯ จะเร่งขยายธุรกิจตามแผนที่กำหนด โดยเฉพาะด้านการส่งออกที่คาดว่าจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกเป็นเท่าตัว รวมถึงการผลิตตู้งานต่างๆ เช่น ตู้เต่าบิน , ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ เป็นต้น รวมถึงการเตรียมเปิดโรงงานใหม่ในเขตฟรีโซน เพื่อรองรับการขยายงานด้านการส่งออก และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงเป็นการลดต้นทุนและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จากการนำเข้าสินค้าเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยคาดว่าจะเดินเครื่องการผลิตได้เร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 51.85 ล้านบาท โดยบริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล วันที่ 14 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 อีกทั้ง ยังมีมติพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (BM-W3) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 172,819,586 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิ BM-W3 ดังกล่าวด้วย
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,305.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.56 ล้านบาท หรือ 14.13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 55.13 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตที่ดีในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะการส่งออกที่มียอดขายเติบโตเป็น 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 230 ล้านบาท หรือ 104.55% รวมถึงการผลิตสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กต่าง ๆ โดยเฉพาะการรับผลิตโครง “ตู้เต่าบิน” ซึ่งเป็นตู้คาเฟ่อัตโนมัติ จากกลุ่มบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH และงานในหมวดของราง-ท่อร้อยสายไฟ จากโครงการเมกะโปรเจคต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน
“ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะยอดส่งออกที่มีการเติบโตกว่า 100% และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการผลิตชิ้นงานอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เตรียมจะขยายโรงงานการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตทั้งยอดการสั่งจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2B (Business-to-Business) , การรับงานผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อ (OEM) , การได้รับผลประโยชน์จากการจัดตั้งโรงงานในเขตปลอดอากร (Free Zone-ฟรีโซน) ที่เตรียมเปิดเดินเครื่องในเร็ว ๆ นี้ และการรับรู้รายได้จากงานใหม่ ๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอานิสงส์บวกต่อบริษัทในปี 2566” นายธานิน กล่าว
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจปี 2566 บริษัทฯ จะเร่งขยายธุรกิจตามแผนที่กำหนด โดยเฉพาะด้านการส่งออกที่คาดว่าจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกเป็นเท่าตัว รวมถึงการผลิตตู้งานต่างๆ เช่น ตู้เต่าบิน , ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ เป็นต้น รวมถึงการเตรียมเปิดโรงงานใหม่ในเขตฟรีโซน เพื่อรองรับการขยายงานด้านการส่งออก และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงเป็นการลดต้นทุนและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จากการนำเข้าสินค้าเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยคาดว่าจะเดินเครื่องการผลิตได้เร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 51.85 ล้านบาท โดยบริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล วันที่ 14 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 อีกทั้ง ยังมีมติพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (BM-W3) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 172,819,586 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิ BM-W3 ดังกล่าวด้วย