RSP ปี 65 กำไรพุ่ง 109 ลบ. เพิ่มขึ้น 254.9% วางเป้าปี 66 ยอดขายโตเกิน 15%

บมจ.ริช สปอร์ต หรือ RSP ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์แบรนด์จากต่างประเทศ เดินหน้าขยาย 20 สาขาทั่วประเทศ พร้อมทุ่มงบทางการตลาด หวังเพิ่มยอดขายและการรับรู้ของแบรนด์ในช่วงตลาดฟื้นตัว หลังสัญญาณบวกชัดทั้งจำนวนลูกค้า-ยอดต่อบิลพุ่ง สะท้อนลูกค้าพร้อมจับจ่าย มั่นใจยอดขายปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%



นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ RSP ผู้นำในการประกอบธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้าประเภทแฟชั่น และไลฟ์สไตล์ ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 15-20% โดยมุ่งเน้นการเติบโตจากการเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิม และการขยายสาขาใหม่ รวมถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งภายหลังจากการเปิดประเทศในช่วงกลางปีที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาหลักที่อยู่ใจกลางเมืองและจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไป เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น 

“ทิศทางของ RSP ในปีนี้ ตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัว เราจะมุ่งเน้นการขยายสาขาทั้งในไทยและกัมพูชาและเพิ่มยอดขายต่อสาขาด้วยการบริหารจัดการหน้าร้านอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการกลับมาทุ่มงบฯ กับการทำกิจกรรมการตลาด โดยเฉพาะการทำการตลาดแบบ on-ground เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค โดยเตรียมเพิ่มสาขาอย่างน้อย 20 สาขา เน้นทำเลที่มีศักยภาพเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัยเพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค” นางสาวพาพิชญ์ กล่าว

ส่วนในกัมพูชา มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 4-5 สาขา หลังจากปี 2565 ปูพรมไปแล้ว 10 สาขา เพื่อให้รับกับศักยภาพของตลาดที่มีห้างเปิดใหม่หลายแห่งและจีดีพีเติบโตสูง ทำให้รายได้ต่อประชากรมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับผลประกอบการในงวดปี 2565  บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 109.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 254.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.8 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,209.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  39.5 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 867.0 ล้านบาท 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ยังคงเชื่อมั่นต่อบริษัท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ  มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท คิดเป็นเงินรวม 156.03 ล้านบาท  ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับมติของผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ในวันที่  21 เมษายน 2566  โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่  28 เมษายน 2566  และจ่ายเงินปันผลวันที่ 18 พฤษภาคม 2566