Talk of The Town
ไม่ถูกใจขา Short! จับตามาตรการ Uptick ช่วยลดหุ้นผันผวนคาดบังคับใช้ 1 ก.ค.นี้ โบรกฯ ชี้ช่วยหนุน SET ฉุดทำ Short ยากขึ้น
18 มิถุนายน 2567
บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) จากประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศใช้มาตรการ Uptick เพื่อลดความผันผวนของราคาหุ้น หลังมีปริมาณชอร์ตเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มใช้วันที่ 1 ก.ค. 67
มองเป็น “บวก” ต่อ SET ซึ่งมาตรการดังกล่าว คาดช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและลดแรงกดดันต่อหุ้นที่มีการ Short-Sell สูง อย่าง AOT CPALL ADVANC KBANK GULF EA BEM MINT
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) รายงานว่า จากรณีที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่า มาตรการเพิ่ม Uptick Rule รายหลักทรัพย์ที่จะมาใช้แทน Zero-plus Tick จะเริ่มใช้มาตรการ 1 ก.ค.67 ตามทาง ตลท. จะการแถลงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวก่อนใช้จริงวันนี้
มองเป็นบวกต่อ SET เพราะ Uptick rule ที่ต้องเปิด short ที่ราคา offer หรือราคาที่สูงกว่าราคาตลาดจะไม่จูงใจให้นักลงทุนเปิด Short Position หรือทำการ Short ได้ยากขึ้นซึ่งมีส่วนเพิ่มความผันผวนตลาดในปัจจุบันที่เป็นขาลงจากความกังวลความไม่ชัดเจนที่จะมีผลเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในรอบล่าสุดที่ SET มีการใช้มาตรการดังกล่าว (13 มี.ค. – 30 ก.ย. 23) SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น +9.5% ในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับรอบนี้ เชิงกลยุทธ์ คาดว่าหุ้นที่มีสถานะ Short ที่ยังไม่ซื้อคืนหุ้น/ทุนชำระแล้วสูง > 1% ที่ยังเคลื่อนไหว Underperform ตลาด (YTD -8.4%) หรือมีพื้นฐานแข็งแกร่งมีโอกาสเห็นการทยอย Cover Short แบบเร่งก่อนมาตรการมีผล โดยหุ้นที่เรามองเข้าข่าย ได้แก่
1) กลุ่มที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้วสูงเกิน 1% + ยัง Underperform SET (YTD -8.4%) ได้แก่ HANA (ถูก Short Sales และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้ว 2.77%, YTD -15%) IVL (2.01%, -27.3%) KCE (1.66%, -22.3%) BTS (1.42%, -36.8%) AP (1.26%, -25.7%) GPSC (1.26, -18%) CBG (1.22, -19.4%) PTTGC (1.05%, -20.8%)
2) กลุ่มที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้วสูงเกิน 1% + พื้นฐานยังแข็งแกร่ง ได้แก่ TOP (ถูก Short Sales และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้ว 2.2%) BEM (1.84%) MTC (1.36%) MINT (1.24%) OSP (1.15%) AOT (1.0%)
มองเป็น “บวก” ต่อ SET ซึ่งมาตรการดังกล่าว คาดช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและลดแรงกดดันต่อหุ้นที่มีการ Short-Sell สูง อย่าง AOT CPALL ADVANC KBANK GULF EA BEM MINT
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) รายงานว่า จากรณีที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่า มาตรการเพิ่ม Uptick Rule รายหลักทรัพย์ที่จะมาใช้แทน Zero-plus Tick จะเริ่มใช้มาตรการ 1 ก.ค.67 ตามทาง ตลท. จะการแถลงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวก่อนใช้จริงวันนี้
มองเป็นบวกต่อ SET เพราะ Uptick rule ที่ต้องเปิด short ที่ราคา offer หรือราคาที่สูงกว่าราคาตลาดจะไม่จูงใจให้นักลงทุนเปิด Short Position หรือทำการ Short ได้ยากขึ้นซึ่งมีส่วนเพิ่มความผันผวนตลาดในปัจจุบันที่เป็นขาลงจากความกังวลความไม่ชัดเจนที่จะมีผลเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในรอบล่าสุดที่ SET มีการใช้มาตรการดังกล่าว (13 มี.ค. – 30 ก.ย. 23) SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น +9.5% ในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับรอบนี้ เชิงกลยุทธ์ คาดว่าหุ้นที่มีสถานะ Short ที่ยังไม่ซื้อคืนหุ้น/ทุนชำระแล้วสูง > 1% ที่ยังเคลื่อนไหว Underperform ตลาด (YTD -8.4%) หรือมีพื้นฐานแข็งแกร่งมีโอกาสเห็นการทยอย Cover Short แบบเร่งก่อนมาตรการมีผล โดยหุ้นที่เรามองเข้าข่าย ได้แก่
1) กลุ่มที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้วสูงเกิน 1% + ยัง Underperform SET (YTD -8.4%) ได้แก่ HANA (ถูก Short Sales และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้ว 2.77%, YTD -15%) IVL (2.01%, -27.3%) KCE (1.66%, -22.3%) BTS (1.42%, -36.8%) AP (1.26%, -25.7%) GPSC (1.26, -18%) CBG (1.22, -19.4%) PTTGC (1.05%, -20.8%)
2) กลุ่มที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้วสูงเกิน 1% + พื้นฐานยังแข็งแกร่ง ได้แก่ TOP (ถูก Short Sales และยังไม่ปิดสถานะ/หุ้นชำระแล้ว 2.2%) BEM (1.84%) MTC (1.36%) MINT (1.24%) OSP (1.15%) AOT (1.0%)