ในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นไทยเกิดความผันผวนจากบรรยากาศการลงทุนด้วยปัจจัยภายในและภายนอก ก็กดดันให้ราคาหุ้นรายตัวปรับตัวลดลงมาด้วยเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ราคาบางตัวที่ยังเอาชนะตลาดได้ ซึ่งในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการยกมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจมาแบ่งปันกัน
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่า หุ้นปันผล จะเป็นพระเอกที่เอาชนะตลาดหุ้นได้ในช่วงผันผวนจากประเด็นการเมืองในช่วงนี้ได้ โดย 4 ปัจจัยสนับสนุนประกอบไปด้วย
1.หุ้นปันผลสูง ปรับลงน้อยกว่าหุ้นอื่นๆ ในช่วงการเมืองร้อนแรง โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (15 พ.ค. –14 มิ.ย. 67) ดัชนีที่ลงแรงสุด คือ mai ปรับตัวลง-7.62% ตามมาด้วย SSET -5.86%, SET -5.09%, SET50 -4.60% และ SETHD (หุ้นปันผลสูง) ปรับตัวลงน้อยสุด -1.8%
2.หุ้นปันผลสูงมักจะผันผวนน้อย ในโครงสร้างของหุ้นปันผลสูงมักจะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาด หรือแปรผกผันกับค่า BETA สะท้อนได้จากหุ้นปันผลสูง มักจะมีค่า BETA ที่ต่ำและหุ้นผันผวนต่ำมักจะมีค่า BETA ที่สูง
3.ในเชิงเทคนิค หุ้นปันผลสูง (SETHD) มีกราฟที่ดูดีกว่าดัชนีอื่นๆ สะท้อนได้จากดัชนี SETHD ยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในปีนี้ ผิดกับดัชนีอื่นๆ SET, SET50, SSET และ mai ทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีหมดแล้ว
4. ในมุมของมูลค่า SET INDEX ย่อตัวลงมาจน DIVIDEND YIELD เปิดกว้าง โดย SET INDEX 1310 จุด มี DIVIDEND YIELD สูงถึง 3.5% และเป็นระดับ +1SD ในรอบ 5 ปี
ทั้ง 4 ปัจจัยแสดงให้เห็นว่า หุ้นพื้นฐานแข็งแรงปันผลสูง น่าจะเป็นหุ้นผู้นำที่ดี สำหรับการก้าวข้ามความผันผวนประเด็นการเมืองในช่วงนี้ สำหรับหุ้นพื้นฐานปันผลสูงที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล น่าทยอยซื้อสะสมก้าวข้ามความผันผวนในช่วงนี้ แนะนำ SIRI, SPALI, TTB, SCCC, PTTEP, BBL,KBANK, INTUCH, TU, ADVANC
สำหรับปัจจัยพื้นฐานหุ้นรายตัว SIRI นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 0.15 บาท โดยในระยะสั้นยังดีกว่ากลุ่มฯ รวมถึงแผนธุรกิจปี 67 ที่เชิงรุก กว่าคู่แข่งเป็นโอกาสของการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและมีโอกาสของอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปีนี้
SPALI นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 1.16 บาท โดยในระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสถูกกดดันจากผลประกอบการไตรมาส 1/67 ที่ต่ำกว่าคาด
TTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2 บาท และคาดการณ์เงินปันผลที่ 2567 ที่ 0.10 บาท เนื่องจาก
ROE จะเพิ่มขึ้นเป็น 9.5% ในปี 69 จาก 8.2% ในปี 66 จากการปรับสัดส่วนสินเชื่อ, การเพิ่มการจ่ายเงินปันผล และงบดุลที่แข็งแกร่งและรัดกุม จึงทำให้กำไรและเงินปันผลสูงกว่าธนาคารอื่นๆ
SCCC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 165บาท และคาดการณ์เงินปันผลที่ 9 บาท ด้วยราคาหุ้นในปัจจุบันที่ค่อนข้างถูก และแนวโน้มกำไรปี 2567 ที่จะกลับมาเติบโตโดดเด่นมากขึ้นหลังจากผ่านจุดต่ำสุด จึงมีการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นในปีนี้
PTTEP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้คําแนะนํา “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 188 บาท เนื่องจากการเข้าซื้อสัมปทานกาชาในสหรัฐอาหรับเอมิเรตสจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว และยังเป็นหุ้นมีศักยภาพในการทํากําไรสูงที่สุดในบรรดาหุ้นพลังงานของไทย ขณะที่คาดการณ์เงินปันผลในปี 2567 จะอยู่ที่ 9.5 บาท
BBL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 166 บาท และคาดการณ์เงินปันผลในปี 2567 ที่ 7.50 บาท แม้ว่าจะเป็นธนาคารที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR ลงเป็นธนาคารแรก แต่มีผลกระทบค่อนข้างน้อย
KBANK นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้คำแนะนำ “Outperform” ราคาเป้าหมาย 148 บาท และคาดการณ์เงินปันผลที่ 6.50 บาท เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เอื้อต่อการฟื้นตัวของรายได้ลูกค้าธุรกิจ ขณะที่แนวโน้ม Credit cost เริ่มอยู่ในการควบคุม และมูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับไม่แพง
INTUCH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 3.40 บาท เนื่องจากกำไรปี 2567 ที่1.2 หมื่นล้านบาท (เติบโตจากปีก่อนหน้า 7.5% ) มีโอกาสที่จะทำสูงกว่าคาด ตามคาดการณ์ของ ADVANC ที่มีโอกาสจะทำได้ดีกว่าที่คาด
TU นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.80 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 0.73 บาท เนื่องจากประเมินว่ากำไรไตรมาส 1/67 จะเป็นระดับที่ต่ำสุดของปีนี้แล้วและด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2/67-3/67
ADVANC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 255 บาท ซึ่งคาดการณ์เงินปันผล 2567 ที่ 9.40 บาท จากปรับประมาณการกําไรปี 2567-2569 ขึ้นอีก 5-7% จาก ARPU ที่ฟื้นตัวดีกว่าคาดและการควบคุมต้นทุน และการประมูลคลื่นความถี่จะช่วยลดต้นทุนและหนุนให้กําไรแตะจุดสูงสุดในปี 2569
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่า หุ้นปันผล จะเป็นพระเอกที่เอาชนะตลาดหุ้นได้ในช่วงผันผวนจากประเด็นการเมืองในช่วงนี้ได้ โดย 4 ปัจจัยสนับสนุนประกอบไปด้วย
1.หุ้นปันผลสูง ปรับลงน้อยกว่าหุ้นอื่นๆ ในช่วงการเมืองร้อนแรง โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (15 พ.ค. –14 มิ.ย. 67) ดัชนีที่ลงแรงสุด คือ mai ปรับตัวลง-7.62% ตามมาด้วย SSET -5.86%, SET -5.09%, SET50 -4.60% และ SETHD (หุ้นปันผลสูง) ปรับตัวลงน้อยสุด -1.8%
2.หุ้นปันผลสูงมักจะผันผวนน้อย ในโครงสร้างของหุ้นปันผลสูงมักจะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาด หรือแปรผกผันกับค่า BETA สะท้อนได้จากหุ้นปันผลสูง มักจะมีค่า BETA ที่ต่ำและหุ้นผันผวนต่ำมักจะมีค่า BETA ที่สูง
3.ในเชิงเทคนิค หุ้นปันผลสูง (SETHD) มีกราฟที่ดูดีกว่าดัชนีอื่นๆ สะท้อนได้จากดัชนี SETHD ยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในปีนี้ ผิดกับดัชนีอื่นๆ SET, SET50, SSET และ mai ทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีหมดแล้ว
4. ในมุมของมูลค่า SET INDEX ย่อตัวลงมาจน DIVIDEND YIELD เปิดกว้าง โดย SET INDEX 1310 จุด มี DIVIDEND YIELD สูงถึง 3.5% และเป็นระดับ +1SD ในรอบ 5 ปี
ทั้ง 4 ปัจจัยแสดงให้เห็นว่า หุ้นพื้นฐานแข็งแรงปันผลสูง น่าจะเป็นหุ้นผู้นำที่ดี สำหรับการก้าวข้ามความผันผวนประเด็นการเมืองในช่วงนี้ สำหรับหุ้นพื้นฐานปันผลสูงที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล น่าทยอยซื้อสะสมก้าวข้ามความผันผวนในช่วงนี้ แนะนำ SIRI, SPALI, TTB, SCCC, PTTEP, BBL,KBANK, INTUCH, TU, ADVANC
สำหรับปัจจัยพื้นฐานหุ้นรายตัว SIRI นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 0.15 บาท โดยในระยะสั้นยังดีกว่ากลุ่มฯ รวมถึงแผนธุรกิจปี 67 ที่เชิงรุก กว่าคู่แข่งเป็นโอกาสของการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและมีโอกาสของอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปีนี้
SPALI นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 1.16 บาท โดยในระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสถูกกดดันจากผลประกอบการไตรมาส 1/67 ที่ต่ำกว่าคาด
TTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2 บาท และคาดการณ์เงินปันผลที่ 2567 ที่ 0.10 บาท เนื่องจาก
ROE จะเพิ่มขึ้นเป็น 9.5% ในปี 69 จาก 8.2% ในปี 66 จากการปรับสัดส่วนสินเชื่อ, การเพิ่มการจ่ายเงินปันผล และงบดุลที่แข็งแกร่งและรัดกุม จึงทำให้กำไรและเงินปันผลสูงกว่าธนาคารอื่นๆ
SCCC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 165บาท และคาดการณ์เงินปันผลที่ 9 บาท ด้วยราคาหุ้นในปัจจุบันที่ค่อนข้างถูก และแนวโน้มกำไรปี 2567 ที่จะกลับมาเติบโตโดดเด่นมากขึ้นหลังจากผ่านจุดต่ำสุด จึงมีการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นในปีนี้
PTTEP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้คําแนะนํา “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 188 บาท เนื่องจากการเข้าซื้อสัมปทานกาชาในสหรัฐอาหรับเอมิเรตสจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว และยังเป็นหุ้นมีศักยภาพในการทํากําไรสูงที่สุดในบรรดาหุ้นพลังงานของไทย ขณะที่คาดการณ์เงินปันผลในปี 2567 จะอยู่ที่ 9.5 บาท
BBL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 166 บาท และคาดการณ์เงินปันผลในปี 2567 ที่ 7.50 บาท แม้ว่าจะเป็นธนาคารที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR ลงเป็นธนาคารแรก แต่มีผลกระทบค่อนข้างน้อย
KBANK นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้คำแนะนำ “Outperform” ราคาเป้าหมาย 148 บาท และคาดการณ์เงินปันผลที่ 6.50 บาท เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เอื้อต่อการฟื้นตัวของรายได้ลูกค้าธุรกิจ ขณะที่แนวโน้ม Credit cost เริ่มอยู่ในการควบคุม และมูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับไม่แพง
INTUCH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 3.40 บาท เนื่องจากกำไรปี 2567 ที่1.2 หมื่นล้านบาท (เติบโตจากปีก่อนหน้า 7.5% ) มีโอกาสที่จะทำสูงกว่าคาด ตามคาดการณ์ของ ADVANC ที่มีโอกาสจะทำได้ดีกว่าที่คาด
TU นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.80 บาท และคาดการณ์เงินปันผลปี 2567 ที่ 0.73 บาท เนื่องจากประเมินว่ากำไรไตรมาส 1/67 จะเป็นระดับที่ต่ำสุดของปีนี้แล้วและด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2/67-3/67
ADVANC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 255 บาท ซึ่งคาดการณ์เงินปันผล 2567 ที่ 9.40 บาท จากปรับประมาณการกําไรปี 2567-2569 ขึ้นอีก 5-7% จาก ARPU ที่ฟื้นตัวดีกว่าคาดและการควบคุมต้นทุน และการประมูลคลื่นความถี่จะช่วยลดต้นทุนและหนุนให้กําไรแตะจุดสูงสุดในปี 2569