ศูนย์วิจัยกรุงศรี ประเมินปี 2566 – 2568 ตลาดเครื่องมือแพทย์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่ามูลค่าตลาดเครื่องมือแพทย์ในประเทศ ในปี 2567 – 2568 จะเติบโตเฉลี่ย 6-7% ต่อปี รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพ ยังมีส่วนช่วยหนุนการเติบโตของตลาดเครื่องมือทางการแพทย์ของไทยอีกด้วย
ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสสร้างการเติบโตของ บริษัท พี ซี แอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCL ผู้เชี่ยวชาญในการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากบริษัทเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำของโลก
โดย PCL มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในเร็ว ๆ นี้ ในกลุ่มกลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ สินค้าอุปโภคบริโภค / ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 410 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.05% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วหลัง IPO โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
PCL ก่อตั้งโดยนายพิสิษฐ์ วรรณวิทยาภา และหุ้นส่วนทางธุรกิจ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2538 เพื่อประกอบธุรกิจผลิต นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือและน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรค และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ และเปิดบริการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ซึ่งนายพิสิษฐ์เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ จบการศึกษาจากคณะเทคนิคการแพทย์ และมีประสบการณ์ในธุรกิจดังกล่าวมากกว่า 35 ปี
ปัจจุบัน กลุ่มวรรณวิทยาภา เป็นผู้ถือหุ้นถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมในบริษัทรวม 100% ของทุนที่ออกและชำระแล้ว โดยมีบริษัทย่อยจำนวน 6 บริษัท ซึ่งบริษัท เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนที่ออกและชำระแล้ว โดยธุรกิจของบริษัทสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
1. กลุ่มธุรกิจผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรค และเครื่องมือวิทยาศาสตร์
2. กลุ่มธุรกิจบริการรับตรวจวิเคราะห์โรคสำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และบริการรับตรวจสุขภาพสำหรับบุคคลทั่วไป
3. กลุ่มธุรกิจผลิต พัฒนา และจำหน่ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้กับเครื่องมือแพทย์และให้บริการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์พร้อมบริการซ่อมแซมบำรุงรักษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
โดยมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องมือ อุปกรณ์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรคต่างๆ ทั้งจากผู้ผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ ตัวแทนจำหน่ายในประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่โรงพยาบาล และสถานพยาบาลต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และน้ำยาในการวินิจฉัยโรคจากผู้ผลิต และ/หรือตัวแทนจำหน่ายหลายราย เช่น Beckman Coulter, Arkray, Immucor Lifotronic Technology, MGI Tech เป็นต้น
ลักษณะการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายจะมีทั้งแบบเป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Distributor) และเป็นผู้จัดจำหน่ายทั่วไป (Non-Exclusive Distributor) โดยผู้ผลิต และ/หรือตัวแทนจำหน่าย (Supplier) นั้น จะเป็นผู้ผลิต และ/หรือตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ และในประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านวิเคราะห์โรคชนิดตรวจเป็นประจำขั้นพื้นฐานทั่วไป (Routine Test) ภายใต้ตราสินค้าของ Beckman Coulter เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่กลุ่มบริษัทจัดจำหน่าย ในระหว่างปี 2564 - 2566 คิดเป็นสัดส่วน 31.43 – 62.49% ของรายได้รวม
ปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรคต่างๆ ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิต 36 ตราสินค้า ที่ผ่านการรับรองและมีใบอนุญาตนำเข้าจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (อ.ย.) เป็นที่เรียบร้อย รวมถึงการตรวจวิเคราะห์ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับเครื่องมือแพทย์
PCL มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
1. เป็นผู้นำในตลาดเครื่องมือ และน้ำยาวิเคราะห์โรคที่ใช้ในโรงพยาบาลทั้งในระดับตติยภูมิ และทุติยภูมิ
2. สามารถผลิตเครื่องมือและน้ำยาที่มีคุณภาพสูงได้มาตรฐาน เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
3. เป็นศูนย์บริการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในประเทศ
4. เป็นผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์สำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และขยายสู่กลุ่มตลาดอินโดจีน
และ 5. สร้างการเติบโตด้วยยอดขายและผลกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่องทุกปีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนในบริษัท
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มีความเห็นว่า PCL เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเครื่องมือแพทย์มาอย่างยาวนาน โดยคาดกำไรปกติในปี 2567 ที่ 252 ล้านบาท เติบโต 143.5% จากปีก่อน หนุนจาก แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม เครื่องมือทางการแพทย์ของไทยที่คาดเติบโตในระดับ 6-7% ต่อปี จากการเข้าสู่สังคมสูงอายุและจำนวนนักท่องเที่ยวต่ำงชำติที่สูงขึ้น
รวมทั้งการนำ One touch solution และซอฟต์แวร์เชื่อมต่อเครื่องมือทางการแพทย์ และอุปกรณ์จาก RAX เข้าไปติดตั้งในสถานพยาบาลเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
อีกทั้งการรับรู้ผลของการใช้เงินจาก IPO ในการนำเข้าเครื่องมือการแพทย์สมัยใหม่และเทคโนโลยีชั้นสูงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการประมูลมากขึ้น และ GPM คาดสูงขึ้นเป็น 35.0% จาก Product Mix ที่มีสัดส่วนรายได้จาก RAX ที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้มองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ยังสามารถเติบโตได้ต่อ หนุนจากจำนวนผู้สูงอายุของประชากรไทยที่ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง
ประกอบกับในระยะสั้น-กลาง บริษัทยังคงเน้นนำเข้านวัตกรรมสมัยใหม่ ส่งผลให้คาดกำไรปกติในปี 2568 จะสูงขึ้นเป็น 301 ล้านบาท เติบโต 19.5% จากปีก่อน และหากอิง PER ที่ 22 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2568 ที่ 4.20 บาท
ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสสร้างการเติบโตของ บริษัท พี ซี แอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCL ผู้เชี่ยวชาญในการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากบริษัทเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำของโลก
โดย PCL มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในเร็ว ๆ นี้ ในกลุ่มกลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ สินค้าอุปโภคบริโภค / ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 410 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.05% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วหลัง IPO โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
PCL ก่อตั้งโดยนายพิสิษฐ์ วรรณวิทยาภา และหุ้นส่วนทางธุรกิจ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2538 เพื่อประกอบธุรกิจผลิต นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือและน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรค และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ และเปิดบริการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ซึ่งนายพิสิษฐ์เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ จบการศึกษาจากคณะเทคนิคการแพทย์ และมีประสบการณ์ในธุรกิจดังกล่าวมากกว่า 35 ปี
ปัจจุบัน กลุ่มวรรณวิทยาภา เป็นผู้ถือหุ้นถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมในบริษัทรวม 100% ของทุนที่ออกและชำระแล้ว โดยมีบริษัทย่อยจำนวน 6 บริษัท ซึ่งบริษัท เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนที่ออกและชำระแล้ว โดยธุรกิจของบริษัทสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
1. กลุ่มธุรกิจผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรค และเครื่องมือวิทยาศาสตร์
2. กลุ่มธุรกิจบริการรับตรวจวิเคราะห์โรคสำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และบริการรับตรวจสุขภาพสำหรับบุคคลทั่วไป
3. กลุ่มธุรกิจผลิต พัฒนา และจำหน่ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้กับเครื่องมือแพทย์และให้บริการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์พร้อมบริการซ่อมแซมบำรุงรักษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
โดยมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องมือ อุปกรณ์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรคต่างๆ ทั้งจากผู้ผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ ตัวแทนจำหน่ายในประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่โรงพยาบาล และสถานพยาบาลต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และน้ำยาในการวินิจฉัยโรคจากผู้ผลิต และ/หรือตัวแทนจำหน่ายหลายราย เช่น Beckman Coulter, Arkray, Immucor Lifotronic Technology, MGI Tech เป็นต้น
ลักษณะการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายจะมีทั้งแบบเป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Distributor) และเป็นผู้จัดจำหน่ายทั่วไป (Non-Exclusive Distributor) โดยผู้ผลิต และ/หรือตัวแทนจำหน่าย (Supplier) นั้น จะเป็นผู้ผลิต และ/หรือตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ และในประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านวิเคราะห์โรคชนิดตรวจเป็นประจำขั้นพื้นฐานทั่วไป (Routine Test) ภายใต้ตราสินค้าของ Beckman Coulter เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่กลุ่มบริษัทจัดจำหน่าย ในระหว่างปี 2564 - 2566 คิดเป็นสัดส่วน 31.43 – 62.49% ของรายได้รวม
ปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรคต่างๆ ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิต 36 ตราสินค้า ที่ผ่านการรับรองและมีใบอนุญาตนำเข้าจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (อ.ย.) เป็นที่เรียบร้อย รวมถึงการตรวจวิเคราะห์ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับเครื่องมือแพทย์
PCL มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
1. เป็นผู้นำในตลาดเครื่องมือ และน้ำยาวิเคราะห์โรคที่ใช้ในโรงพยาบาลทั้งในระดับตติยภูมิ และทุติยภูมิ
2. สามารถผลิตเครื่องมือและน้ำยาที่มีคุณภาพสูงได้มาตรฐาน เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
3. เป็นศูนย์บริการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในประเทศ
4. เป็นผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์สำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และขยายสู่กลุ่มตลาดอินโดจีน
และ 5. สร้างการเติบโตด้วยยอดขายและผลกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่องทุกปีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนในบริษัท
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มีความเห็นว่า PCL เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเครื่องมือแพทย์มาอย่างยาวนาน โดยคาดกำไรปกติในปี 2567 ที่ 252 ล้านบาท เติบโต 143.5% จากปีก่อน หนุนจาก แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม เครื่องมือทางการแพทย์ของไทยที่คาดเติบโตในระดับ 6-7% ต่อปี จากการเข้าสู่สังคมสูงอายุและจำนวนนักท่องเที่ยวต่ำงชำติที่สูงขึ้น
รวมทั้งการนำ One touch solution และซอฟต์แวร์เชื่อมต่อเครื่องมือทางการแพทย์ และอุปกรณ์จาก RAX เข้าไปติดตั้งในสถานพยาบาลเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
อีกทั้งการรับรู้ผลของการใช้เงินจาก IPO ในการนำเข้าเครื่องมือการแพทย์สมัยใหม่และเทคโนโลยีชั้นสูงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการประมูลมากขึ้น และ GPM คาดสูงขึ้นเป็น 35.0% จาก Product Mix ที่มีสัดส่วนรายได้จาก RAX ที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้มองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ยังสามารถเติบโตได้ต่อ หนุนจากจำนวนผู้สูงอายุของประชากรไทยที่ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง
ประกอบกับในระยะสั้น-กลาง บริษัทยังคงเน้นนำเข้านวัตกรรมสมัยใหม่ ส่งผลให้คาดกำไรปกติในปี 2568 จะสูงขึ้นเป็น 301 ล้านบาท เติบโต 19.5% จากปีก่อน และหากอิง PER ที่ 22 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2568 ที่ 4.20 บาท