Talk of The Town

แฉ! รายชื่อ 7 หุ้น SET100 ราคาทำนิวโลว์ในรอบ 5 ปี


19 มิถุนายน 2567
วานนี้(วันที่ 17 มิ.ย.67) ทิศทางของดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง โดยดัชนีได้ตัวปรับลงไปถึง 1,288 จุด และราคาหุ้นรายตัวก็ได้ปรับตัวลดลงตามด้วยเช่นกัน โดยจากการสำรวจข้อมูลทางสำนักข่าว Share2Trade พบว่ามีบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET 100 ที่ราคาหุ้นทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี ถึง 7 ตัว ด้วยกัน

แฉ! รายชื่อ 7 หุ้น copy.jpg

โดยตัวแรก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่ราคาปิดตลาด (ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ได้ทำจุดต่ำสุดที่ 16.10 บาท ซึ่งทางด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ได้ให้มุมมองว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 มีอัพไซด์จากการบริหารจัดต้นทุนได้ดีของบริษัทและผลกระทบดีเซลยูโร5 ที่ต่ำกว่ากลุ่มได้ รวมถึงแรงกดดันการแทรกแซงของรัฐจะทยอยลดลงหลังต้นทุนน้ำมันกลับสู่ภาวะปกติ จึงแนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท

ต่อมา บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ราคาปิดตลาด (ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ได้ทำจุดต่ำสุดที่ 4.58 บาท ทางด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ยังไม่เห็นปัจจัยหนุนผลประกอบการในระยะสั้น จึงยังไม่มีปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้นด้วยเช่นกัน จึงแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท เนื่องจากการขยายระบบขนส่งมวลชนทั่วกรุงเทพฯ ในอีกหลายปีข้างหน้าจะเสริมสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาว

ถัดมาบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ราคาปิดตลาด (ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ได้ทำจุดต่ำสุดที่ 1.27 บาท โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นว่า ราคาหุ้นที่ปรับลดลงเป็นจังหวะเข้าลงทุน จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 2.01 บาท จากผลประกอบการผ่านช่วงแย่สุดไปแล้ว หลังขายธุรกิจ KEX ออกไปช่วยลดภาระขาดทุน

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ที่ราคาปิดตลาด (ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ได้ทำจุดต่ำสุดที่ 99.50 บาท ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า จากความคืบหน้าโครงการหยุนหลินและเคซอนเป็นไปด้วยดี ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตกำไรใน 1-2 ปีข้างหน้า และราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนประเด็นดังกล่าว ประกอบกับอัตราเงินปันผลเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% ซึ่งเป็นระดับน่าสนใจ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 150 บาท

ต่อมาบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ราคาปิดตลาด (ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ได้ทำจุดต่ำสุดที่ 8.95 บาท โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังปี 67 จะฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากการเพิ่มสินค้าใหม่และช่องทางการจำหน่าย รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ราคาปิดตลาด (ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ได้ทำจุดต่ำสุดที่ 26 บาท นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองต่อดีลซื้อ Paiton ซึ่งจะเพิ่มส่วนแบ่งกำไรได้มากในปีนี้และปีหน้า รวมถึงจะช่วยให้เงินปันผลเพิ่มขึ้นด้วย จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 37 บาท

และสุดท้าย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ราคาปิดตลาด (ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ได้ทำจุดต่ำสุดที่ 20.50 บาท ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ในระยะสั้นยังไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นที่ชัดเจน และยังมีความกังวลราคา LNG ที่ปรับขึ้นและค่า Ft ที่เพิ่มช้ากว่าราคาก๊าซอาจส่งผลต่อฟื้นตัว  จึงแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท


แฉ! รายชื่อ 7 หุ้น 1-1 copy.jpg