Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 20–06-24 (SABUY-NRF-YGG ยังไหวมั๊ย?)


20 มิถุนายน 2567

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 20–06-24  (SABUY-NRF-YGG ยังไหวมั๊ย?)

20-06-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***เฮ้อออออ ขอถอนหายใจยาวๆๆๆๆ ทำใมตลาดหุ้นมันเป็นแบบนี้ ..เมื่อวานเรื่องราวฉาวโฉ่  หลั่งไหลมาแบบรัวๆๆๆ โห!!! ทำเอาเจ๊จิ๋มนี่ตั้งรับแทบไม่ทัน ได้แต่อุทานว่า...อะไรกันนักกันหนาวะ-++เรื่องดีๆ ไม่มีเลยรึไง!!! เมื่อไหร่ผู้จัดการตลาดฯคนใหม่จะมาทำงานซักที!!! เผื่อว่าสถานการณ์แย่ๆ แบบนี้มันจะดีขึ้น ตามคำที่เจ๊เคยได้ “เมื่อหัวเปลี่ยน..หางก้อขยับตาม”

***เริ่มจาก SABUY  แต่ทำให้เราเศร้าสุดๆ มาแต่เช้าเลย..แจ้งข่าวว่าบอร์ดมีมติให้ยกเลิกแผนการเพิ่มทุนที่จะขาย PP จำนวนรวม 1,300 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายมูลค่าหุ้นละ 2.30 บาท และยกเลิกการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่24 มิถุนายนนี้ด้วย

***เหตุผลคือุ PP หรือ บุคคลในวงจํากัดซึ่งได้แก่ Lightnet Pte. Ltd. (“Lightnet”) และนายอานนท์ชัย วีระประวัติ รวมถึง Hiwell Global Co., Ltd. ขอยกเลิกการเข้าลงทุนตามแผนการเพิ่มทุนเดิม เพราะความผันผวนของภาวะตลาดซึ่ง ซึ่งทำให้ราคาหุ้น SABUY ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและกระทบต่อความเหมาะสมของราคาในการเข้าลงทุน

***แป่วววววว...ใบ้รับประทานซิคะคุณข๋า แบบนี้ก้อได้หรอ??? รายย่อยตาดำๆ ทำตาปริบๆ ถามว่าจะเอายังไงละทีนี้หมู่เฮา??? ตลาดหลักทรัพย์-สำนักงาน ก.ล.ต. ช่วยพวกเราได้มะคะ??? ตอนนี้มีหลายคนเข้าไปลุย เพราะมั่นใจว่าได้กลุ่มพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนแล้ว บริษัทจะมีเงิน_มีงาน_มีอนาคต  ข้างหน้าเห็นแสงสว่างรออยู่ จู่ๆ ก้อมาบอกว่า “ยกเลิก” ง่ายดีเนาะ!!!

***คงจะทนฟังเสียงเรียกร้องของรายย่อยไม่ไหว..เมื่อวานเริ่มทำงานเชิกรุกแล้ว ตลท.เผยแพร่ข้อมูลเรื่องของ NEX และ NRF ว่า

1. พบว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทนำหุ้นไปเป็นหลักประกันกับบริษัทหลักทรัพย์ในจำนวนสูงเมื่อเทียบกับทุนจดทะเบียนชำระแล้ว (paid up) ณ เม.ย. 67 NEX และ NRF อยู่ที่ประมาณ 20% และ 38% ตามลำดับ 

2. จากภาวะโดยรวมของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับ fundamental ของบริษัทจดทะเบียน เช่น ผลประกอบการที่ลดลง หรือ P/E ติดลบ ส่งผลให้ราคาปรับลดลง จนแตะระดับต้องเรียกหลักประกัน Call และ Force sell หุ้นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่นำมาวางเป็นหลักประกัน 

3. ในช่วงที่ราคาปรับลดลง พบข้อมูล Short sell และ Program trading ดังนี้ 

-NEX มี Short sell เทียบ Total volume เท่ากับ 0.72%และมี Force sell เทียบ Total volume เท่ากับ 24%
-NRF มี Short sell เทียบ Rotal volume เท่ากับ 2.59% และมี Force sell เทียบ Total volume เท่ากับ 51%

***ทางด้าน”คณิสสร์ ศรีวชิระประภา”บิ๊กบอสของ NEX บอกว่า..เรื่องนี้ได้เคยบอกตอนแถลงข่าวก่อนหน้านี้ไปแล้วว่า หุ้นที่ถูกเทขายออกมานั้นเป็นผลมาจากหุ้นถูก Forced Sell (บังคับขาย) เพราะมีคนมาทุบหุ้น ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องต่อ ก.ล.ต. และดีเอสไอ เพื่อสอบสวนหาคนที่เข้ามาทุบราคาหุ้นแล้ว

***“ที่ผ่านมา NEX ถือเป็นผู้เสียหายโดยตรง เพราะถูก Forced Sell ไปกว่า 400 ล้านหุ้น ถ้าคิดในราคาก่อนหน้านั้นคือ 10 บาท ผมโดนไป 4,000-5,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือหุ้นไม่มาก  ถ้าจะเทขายก็คงเทขายทั้งหมด และที่สำคัญถ้าจะเทขายจริงก็คงเทขายเมื่อราคา 10-20 บาท ไม่มีเหตุผลที่จะเทขายในวันที่ราคาติดฟลอร์ เมื่อเทียบกันแล้วผมเจ็บหนักไม่แพ้นักลงทุน”

***บิีกบอส NEX บอกอีกว่า..ในฐานะผู้บริหารแม้จะบาดเจ็บแต่ยืนยันว่าจะสู้ต่อไป และจะขอยืนหยัดอยู่ข้างผู้ถือหุ้นทุกคนเพราะถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณกับ NEX ผมจะไม่แก้ตัวแต่จะขอแก้ไขปัญหาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา โดยได้มีการเพิ่มทุนจำนวน 8,800 ล้านบาท เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรคหรือมีก็น้อยที่สุด จะขอต่อสู้และนำพาธุรกิจของ NEX ให้ก้าวไปข้างหน้าและสร้างผลกำไรของบริษัทให้เกิดขึ้น ขอให้นักลงทุน รวมไปถึงคู่ค้าและซัปพลายเออร์คลายความวิตกกังวล นี่เป็นคำมั่นสัญญาที่ผมให้ไว้

***ส่วนรายสุดท้าย YGG จู่ๆ ก้อโดนเหมือนกัน..ในแวดวงนักลงทุนเค้าคุยกันว่ากลัวว่าหุ้นตัวนี้จะมาทรงเดียวกับ NRF เม้าท์กันอีกว่าหุ้นถูกนำไปค้ำ margin เยอะมากกกกก ...อูยยยยยส์เสียวแทนเลยอ่ะ

***แต่เมื่อวาน YGG มีแจ้งผ่านระบบของตลท.ว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์") ได้ขอความร่วมมือให้ บริษัท อิ๊ขอให้ชี้แจงเกี่ยวกับพัฒนาการสำคัญ เนื่องจากราคาหลักทรัพย์ของบริษัทปรับตัวลดลงในวันที่ 19 มิถุนายน 2567 นั้น

“บริษัทขอเรียนชี้แจงว่าบริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ทางธุรกิจ  นอกเหนือจากที่ได้เปิดเผยผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แล้ว อย่างไรก็ดี หากบริษัทมีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ บริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนทราบผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ต่อไป” เข้าใจตรงกันนะ!!!