Wealth Sharing
กองทุนก็ซิ่งได้! “ASP-DIGIBLOC-SSF” ให้ผลตอบแทน 200% -แถมลดหย่อนภาษีได้
20 มิถุนายน 2567
เชื่อว่ากระแสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี่ ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจในการหาผลตอบแทนที่สูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆในตลาดทุน และสิ่งที่ต้องแรกมาก็คือความเสี่ยงที่สูงจากราคาหลักทรัพย์ที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง
แต่สำหรับนักลงทุนที่กังวลปัญหาดังกล่าว ก็อาจจะใช้กองทุนรวมเป็นตัวเลือกในการปิดความเสี่ยงได้เช่นกัน ในปัจจุบันกองทุนทางเลือกที่จะพานักลงทุนไปแสวงหาการในสินทรัพย์ดังกล่าวผ่านบริษัทที่ประกอบธุรกิจหรือมีความเกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดต่างประเทศ
โดยในวันนี้ทางเราจึงอยากจะพาผู้อ่านและนักลงทุนไปรู้จักหนึ่งในกองทุนรวมอุตสาหกรรมไทย อย่าง กองทุนเปิด แอสเซทพลัส ดิจิทัล บล็อกเชน เพื่อการออม หรือ ASP-DIGIBLOC-SSF ที่มีความน่าสนใจนอกจากนโยบายลงทุน ยังมีผลตอบแทนที่โดดเด่นและผู้ลงทุนยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้ภายใต้เงื่อนไขของกอง SSF
สำหรับผลการดำเนินงานหรือนักลงทุนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “ผลตอบแทน” ของกองทุนรวม ช่วงที่พีคที่สุดของกองก็คือในปี 2566 ที่ให้ผลตอบแทนขึ้นไปสูงถึง 217% ส่วนในช่วงปี 1 ย้อนหลังก็ยังในระดับที่ 101% และนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) อยู่ที่ 12%
ด้านของการลงทุนหรือนโยบายนั้น จะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets Companies), บริษัทที่มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจ, มีความเกี่ยวข้องกับระบบสินทรัพย์ดิจิทัล และบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เช่น เพิ่มประสิทธิภาพหรือลดต้นทุนในการดำเนินงาน เป็นต้น
สำหรับการบิรหารจัดการเงินลงทุนของกองทุน จะนำเงินของผู้ถือหน่วยเข้าไปลงทุนสินทรัพย์ 5 อันดับแรก ในกองทุนต่างประเทศอย่าง VanEck Digital Transformation ETF หรือ DAPP อยู่ที่ 77.53%, หุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ MARATHON DIGITAL HOLDINGS IN หรือ MARA อยู่ที่ 5.17%, NVIDIA CORP หรือ NVDA อยู่ที่ 3.36%, TAIWAN SEMICONDUCTOR SP ADR หรือ TSM อยู่ที่ 3.22% และ BLOCK INC หรือ SQ อยู่ที่ 2.86%
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการกระจายเม็ดเงินลงทุนของ ASP-DIGIBLOC-SSF แบ่งเป็นรายประเทศ ส่วนใหญ่การลงทุนจะกระจุกตัวอยู่ในประเทศสหรัฐฯเป็นหลักหรือมีสัดส่วนถึง 94.10% ตามมาด้วยไต้หวันอยู่ที่ 3.22% และ เนเธอร์แลนด์อยู่ที่ 2.28%
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจหรืออยากจะลงทุนในกองทุนดังกล่าว ก็สามารถลงทุนเริ่มต้นได้ด้วยเงิน 1,000 บาทตามเงื่อนไขที่บริษัทได้กำหนด ส่วนช่องขายการซื้อขายสามารถทำได้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด และตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายหน่วยลงทุนอื่น ๆ ที่บริษัทกำหนด หรือผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ASP FUND