Talk of The Town

มหากาพย์ ความเหี้ยม “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” ผู้อยู่เบื้องหลังกลโกง “หมื่นล้าน” STARK นักลงทุนสถาบัน-รายย่อย โดนหลอกกันถ้วนหน้า


24 มิถุนายน 2567

มหากาพย์ ความเหี้ยม ชนินทร์ เย็นสุดใจ copy_0.jpg

กลโกงตลาดทุนเริ่มมาตั้งแต่การที่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ หนึ่งในทายาทของธุรกิจสีรายใหญ่ของไทยอย่าง TOA ที่นำบริษัท Phelps Dodge เข้าตลาดหุ้นด้วยการ Backdoor Listing 

คือ การที่บริษัทเข้าตลาดหุ้นโดยทางอ้อม ด้วยการให้อีกบริษัทหนึ่งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นอยู่แล้ว เข้าซื้อสินทรัพย์หรือหุ้นของบริษัทที่ต้องการจะเข้าตลาด

โดยใช้ SMM หรือ สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย เป็นประตูเบิกทาง โดยมีอดีตผู้ช่วยคนสำคัญที่รู้ใจกันมาอย่าง “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” เข้ามาช่วยคุมบังเหียน ภายใต้ชื่อ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK 

แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจของ STARK ก็ดูเหมือนจะราบรื่นธุรกิจกำลังไปได้สวยงาม มีกำไรที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนถึงขั้นบริษัทได้รับการเข้าคำนวณในดัชนี SET100 ของตลาดหุ้นไทย
แต่กลิ่นของความโกงเริ่มมาจากการที่ STARK มีแผนจะเข้าไปซื้อธุรกิจของ LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc ผู้ผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ และ EV charging solutions อันดับ 1 ของโลกสัญชาติเยอรมัน ในสัดส่วน 100% มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

โดยผู้ถือหุ้นได้โหวตผ่านอนุมัติแผนการเข้าลงทุนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และทาง STARK ก็ได้เพิ่มทุนแบบ PP เพื่อหวังที่จะนำเงินก้อนนี้ไปใช้ซื้อกิจการเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งในจังหวะนั้นเอง STARK มีหุ้นกู้จำนวน 6 ชุดที่ออกและเสนอขายไปแล้ววงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาทอีกด้วย

ซึ่งรายชื่อของกลุ่มบุคคลที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ของ STARK ไปนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนประเภทสถาบันรายใหญ่เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด บริษัท หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีบี แอสเซ็ท แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นต้น ซึ่งเรียกได้ว่าเหล่า บลจ.แบงก์ใหญ่โดนกันถ้วนหน้า

ความเหี้ยมของ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” เริ่มแสดงให้เห็นชัดขึ้น เมื่อ STARK ภายใต้การคุมบังเหียนของ ชนินทร์ เย็นสุดใจ ได้ยกเลิกดีลที่จะเข้าซื้อ LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc โดยให้เหตุผลว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน LEONI จนอาจส่งผลกระทบกับสถานะทางการเงินของบริษัท

ภายใต้ความงุนงงและมีคำถามมากมายเต็มหัวของผู้ถือหุ้นว่า แล้วเงินเพิ่มทุนที่ได้รับไปแล้วนั้นจะเอาไปทำอะไรต่อ จากนั้นในระยะถัดมาก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า STRAK จะใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้ไปแล้วไปทำอะไร STARK บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามมาตลอดว่าจะใช้เงินเพิ่มทุนก้อนใหญ่ไปทำอะไร

หลังจากนั้นสถานการณ์ความโกงก็เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อ STRAK ขอเลื่อนการส่งงบการเงินเป็นจำนวน 3 ครั้งติดต่อกัน กลิ่นความโกงเริ่มแตะจมูกเหล่านักลงทุนมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นถึงบริษัทใหญ่โตมีกำไรหลายพันล้านบาท มีเหล่ากองทุนขนาดใหญ่ของไทยและต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นมากมาย แต่ทำไมถึงส่งงบการเงินไม่ได้

จากนั้นมาสถานการณ์ของ STARK เริ่มเลวร้ายลงอย่างชัดเจน เมื่อ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” และพวกยื่นหนังสือลาออกจากบริษัท จนทำให้นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เข้ามารับช่วงต่อเป็นรักษาการซีอีโอ 

พร้อมกับให้มีการตรวจสอบบัญชีโดยใช้ Special Audit เพราะยอมรับว่ามีการเกิดทุจริตขึ้นภายในบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว ก็มีอดีต CFO ของ STARK ออกมาแฉเรื่องราวกลโกงว่าถูกอดีตเจ้านายสั่งตกแต่งบัญชี

แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเริ่มมีการขุดคุ้ยความจริงกันมากยิ่งขึ้น โดยในช่วงกลางปี 2566 ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท STARK กรรมการ อดีตกรรมการและอดีตผู้บริหารของ STARK รวม 10 ราย ต่อ DSI กรณีร่วมกันกระทำ หรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จในบัญชีเอกสารในช่วงปี 2564-2565

โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ  (DSI) ออกหมายเรียกผู้ต้องหาคดี STARK ได้แก่ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” และ “ศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ” ให้มารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากพบหลักฐานว่ามีพฤติการณ์ตกแต่งบัญชี จากนั้น DSI ได้ออกหมายจับ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” แต่ทว่าเจ้าตัวไม่อยู่แล้ว หลังมีกระแสข่าวว่าหนีออกนอกประเทศไปตั้งนานแล้ว

และล่าสุดที่ต้องติดตามก็คือ การที่ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” ใช้เวลาหนีออกจากประเทศไทยว่า 8 เดือน จนถูกตามจับกุมตัวได้ที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเตรียมอยู่ระหว่างดำเนินการคดีความ ถึงว่าโดยเบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฏิเสธ แต่ทางอัยการได้เตรียมร่างส่งฟ้องศาลแล้ว ต้องจับตารอดูต่อไปว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ความเหี้ยมของ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” ก็คือ ไม่ใช่แค่เพียงหลอกนักลงทุนรายย่อยอย่างเรา แต่นักลงทุนรายใหญ่ถึงขั้นเป็นสถาบันการเงินใหญ่ระดับประเทศยังโดน นาย“ชนินทร์” หลอกได้ ลองคิดดูว่าขนาดเหล่านักลงทุนสถาบันยังโดน “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” หลอกตกแต่งบัญชีจนหลงเชื่อ แล้วรายย่อยอย่างเราจะไปเหลืออะไร