Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 25–06-24 (“ณวัฒน์”รับเน้นๆ MGI-W1 36 ล้านหน่วย)

25 มิถุนายน 2567

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 25–06-24 (“ณวัฒน์”รับ MGI-W1 ฟรี! 36 ล้านหน่วย)

25-06-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***ปรบมือรัวๆๆๆ ให้กับคนที่เป็นกุนซือให้กับ MGI เลยจ๊ะ!!! เรียกว่าเมื่อเข้าตลาดทุนมาแล้วต้องใช้เครื่องมือทางการเงินและใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เจ๊จิ๋มลองนั่งนับนิ้วดูนะ เข้าเทรดเมื่อ 14 ธันวาคมปีที่แล้ว..มาถึงตอนนี้ ถ้านับชนวันที่ 14 มิถุนายนนี้ บวก ลบ คูณ หาร เสร็จสรรพ เป็นเวลา 6 เดือนกับอีก 11 วัน แหม!!! ที่สุดอ่ะ!!!

***เมื่อวานตอนราว 4 ทุ่ม MGI ประกาศเพิ่มทุน 84,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพ MGI-W1 ที่จะแจกให้กับผู้ถือหุ้นเดิมฟรี!!!! ใน อัตราส่วน 2.5 หุ้นเดิม : 1 วอร์แรนต์

***โดย MGI-W1 มีอายุ 2 ปี อัตราการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญคือ 1:1 ที่ราคาหุ้นละ 10 บาท...แบบนี้ทายซิ !!!ใครได้ประโยชน์สูงสุดจากดีลนี้????

****ไม่ต้องคิดให้ปวดหมอง...มาทางนี้เจ๊มีคำเฉลย คำตอบ : เค้าคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน “ทั่นซีอีโอ-ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เองคร๊าาาาาา ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 06 มี.ค.67 ของ MGI พบว่า “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ถือหุ้นอยู่ 90,048,700 หุ้น หรือ 42.88% ถ้าคิดตามเรโชว์ที่แจกแล้ว เค้าจะได้รับ MGI-W1 ประมาณ 36 ล้านหน่วย

****โอว์ว์ว์ว์ม่ายก๊าดดดดด ความรวยบังเกิดในบัดดล!! คำนวนง่ายๆ คร่าวๆ เนอะ คิดเอง เออเอง ตามสไตล์ตัวเอง ไม่ได้บอกว่าถูกต้องนะคะแฟนคลับที่รัก!!! ถ้าดูจากราคากระดานของ MGI เมื่อวานปิดที่ 21.20 บาท ราคาแปลงสภาพคือ 10 บาท เป็นไปได้มั้ยว่าเอาส่วนต่าง ราคากระดาน_ลบด้วย_ราคาแปลงสภาพ ฉะนั้นราคาวอแรนต์น่าจะอยู่แถวๆ 10 บาท แล้วถ้าเอาไปคูณกับจำนวนวอร์แรนต์ที่ได้รับมา ว๊าวววววว!!!! กี่ร้อยล้านคะเนี่ย!!!!

***เมื่อวานกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ก.ล.ต.และ ตลท.แถลงข่าวร่วมกัน ถึงมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญ คือการปรับเงื่อนไขกองทุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มีในปัจจุบันคือ ThaiESG ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการสงเสริมให้เกิดการออม ผ่านการลงทุนในตลาดทุน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ระดมทุนให้ความสำคัญกับความยั่งยืน

***เจ๊จิ๋มขอเวฟไม่แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุน ThaiESG แต่ช้อตคัทข้ามมาหาหุ้นที่น่าสนใจในทันที!!! กูรูหุ้นได้วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยระบุว่าการเลือกหุ้นที่อยู่ใน SETESG ที่มี คุณสมบัติดังนี้

i) หุ้นที่ราคาปรับลง ytd สูง vs SETESG -9.8%

ii) มีน้ำหนักในดัชนี SETESG ค่อนข้างมาก

iii) มีสัดส่วนสถานะ Short-selling คงค้างเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด พบว่าหุ้นในดัชนี SETESG ที่เด่นสุด ได้แก่ SCC (YTD ปรับลง -27%, น้ำหนักใน SETESG 2.8%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 0.86%), IVL(- 25.8%, 1.05%, 2.16%) , CRC(-28%, 1.6%, 1.1%), BTS(-36.8%, 0.57%, 1.43%), PTTGC(- 20%, 1.29%, 1.06%), GPSC(-13.9%, 1.1%, 1.2%), CPALL(-2.7%, 4.5%, 0.9%), BGRIM(- 21.1%, 0.53%, 0.98%), SCGP(-6.9%, 1.3%, 1.0%), AP (-27%, 0.24%, 1.08%)

***อีกเรื่องที่ต้องเล่าเพื่อเป็นข้อสังเกตให้แฟนคลับของเจ๊ไม่ตกขบวนการลงทุน..ด้วยสถานการณ์ตลาดหุ้นตอนนี้มีลักษณะที่กำลังจะพลิกเป็นขาขึ้นได้แล้วนะ ดูเอาจากช่วงที่ผ่านมา อาการเหมือนมีความพยายามที่จะขายหุ้น กดหุ้นลง แต่สุดท้ายก้อมีแรงซื้อหนุนเข้ามาและดันหุ้นเด้งขึ้นมาได้ ..อาการนี้น่าจะส่งสัญญาณเชิงบวกได้มั่งอ่ะนะ!!

***ฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวกันได้แล้ว มีคำแนะนำสำหรับผู้ลงทุนระยะกลาง-ยาว กูรูหุ้นแนะนำให้ ทยอยสะสมหุ้นในจุด ที่มี Margin of Safety สูง ใน 2 Theme เด่น

1.) Dividend Plays ที่ธุรกิจมีความมั่นคง ให้ผลตอบแทน Div. Yield มากกว่าปีละ 4% (vs Policy Rate 2.5%) ได้แก่ SCB- AP- ICHI -PTT- BBL- INTUCH -ADVANC -HMPRO -BJC -WHA -TU

2.) หุ้นในกลุ่มที่ Underperform กว่าตลาด (SET YTD ปรับตัวลดลง -8.6%) แต่พื้นฐานระยะกลาง-ยาว ยังแข็งแกร่ง Valuation มีส่วนลด PBV24F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย >20% ได้แก่ BTS- IVL -LH -HMPRO- KCE -PTTGC- GPSC -HANA -GULF