จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : BKGI หุ้น Biotechnology รายแรกของไทย เดินหน้าทำกำไร “ขยายบริการ-หาพันธมิตร”


25 มิถุนายน 2567
บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI)  บริษัท Biotechnology รายแรกของไทย  เดินหน้าสร้างผลงานการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายบริการให้ครอบคลุมและการหาพันธมิตร 

รายงานพิเศษ BKGI copy.jpg

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ SCB  ระบุว่าไบโอเทคโนโลยี (Biotechnology) หรือเทคโนโลยีชีวภาพ หรือไบโอเทค คือ การใช้เทคนิคหรือกระบวนการต่าง ๆ ในการนำสิ่งมีชีวิต ชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิต หรือผลิตภัณฑ์ของสิ่งมีชีวิตมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร หรือสิ่งแวดล้อม

หลังจากเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 มีการพูดถึงเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ (Modern Biotechnology)  เช่น การบำบัดโรคด้วยยีน การพิสูจน์บุคคลด้วยลายพิมพ์ดีเอ็นเอ การโคลน การดัดแปลงยีน เป็นต้น และสาขาไบโอเทคที่พูดถึงมากที่สุด คือ ไบโอเทคทางด้านสุขภาพ

ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจไบโอเทคเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การพัฒนาขึ้นของระดับเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งมีนวัตกรรมใหม่ ๆ จากการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว จึงช่วยยกระดับธุรกิจไบโอเทคให้พัฒนาขึ้นรวดเร็วตามไปด้วย เช่น การจัดเก็บข้อมูลและการวินิจฉัยออนไลน์ การใช้หุ่นยนต์เข้ามาประยุกต์ในการรักษา 

โดยนวัตกรรมการรักษารูปแบบใหม่และการรักษาโรคที่ยังไม่สามารถรักษาได้ จะสนับสนุนให้อัตราการรักษาโรคใหม่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงวัย ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพสูง ทำให้บริษัทไบโอเทคได้รับประโยชน์และเติบโตตามไปด้วย

ความสนใจในธุรกิจไบโอเทค สนับสนุนการเติบโตของ บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI)  ที่ประกอบกิจการห้องปฏิบัติการ และให้บริการการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์  โดยประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน “กิตติคุณ รอดรังนก” มั่นใจแนวโน้มธุรกิจในปีนี้ยังเติบโตได้ดี  

ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนหลายราย เพื่อขยายการบริการที่เกี่ยวข้องภายใต้การบริการเดิม หรืออาจมีการพัฒนาการบริการด้านการแพทย์ใหม่ๆ โดยคาดว่า จะเริ่มทยอยประกาศการลงนามสัญญาความร่วมมือกันในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 67  เพราะหลังจากบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทำให้มีความพร้อมทั้งฐานทุนที่แข็งแกร่ง รองรับกับศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจ ผ่านศาสตร์การแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics) ซึ่งมี BGI  เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ให้การสนับสนุนถ่ายทอดเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ให้กับ BKGI ในฐานะ Flagship รองรับแผนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด  โดยในปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 มีรายได้รวม 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท หรือ 24% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ที่มีรายได้รวม 56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ  10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท หรือ 46% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ที่มีกำไรสุทธิ 7 ล้านบาท 

ทั้งนี้ BKGI สามารถให้บริการตรวจและคัดกรองพันธุกรรมได้ครอบคลุมทุกช่วงอายุวัย ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ไปจนถึงวัยชรา รวมถึงการตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ และการตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ภายใต้เครื่องหมายการค้า ได้แก่ NIFTY, VISTA, NOVA, BGI-XOME, COLOTECT, SENTIS และ DNALL ซึ่งเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าและผู้ใช้บริการ