Wealth Sharing

Google หนุน GULF โต ส่งผลบวกระยะยาว-ต่อยอดลงทุนธุรกิจอื่น อาทิ AI - cybersecurity


26 มิถุนายน 2567

เมื่อคืนที่ผ่านมา บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานว่า บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (Gulf Edge) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นใน สัดส่วน 100% และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซนเตอร์ จำกัด (GSA DC)

แก้ไข WS (เว็บ) Google หนุน GULF โต_0.jpg

โดยได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับบริษัท กูเกิ้ล เอเชีย แปซิฟิก จำกัด (Google) เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการระบบคลาวด์ Google Distributed Cloud air-gapped (“GDC air-gapped”) ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตข้อบังคับทางกฎหมายของประเทศ และได้รับการออกแบบมาเพื่อ ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไร้ซึ่งการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะโดยสิ้นเชิง ส่งผลให้มีเสถียรภาพและความ ปลอดภัยของข้อมูลสูง

ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินงานในฐานะ Managed GDC Provider ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ Google Cloud ที่จะช่วยผลักดันการใช้งาน GDC air-gapped สำหรับองค์กรในประเทศไทย ผ่านการให้คำปรึกษาและบริการจาก ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการจัดการดูแลระบบอย่างครบวงจร

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มองประเด็นดังกล่าว ถือเป็น sentiment เชิงบวกในระยะยาวต่อภาพการดำเนินธุรกิจ ของ GULF ซึ่งถือเป็นการต่อยอดในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อรองรับความต้องการในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต 

รวมถึงยังเป็นส่วนช่วยสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่ง GULF ถือเป็น พันธมิตรรายแรกที่ได้ร่วมมือกับ Google เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าวในไทย  และยังเปิดโอกาสความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจไปสู่บริการด้านอื่นๆ ในระบบนิเวศของ Google cloud เช่น AI, cybersecurity ได้ต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ Google Cloud ถือเป็นผู้นำในด้านธุรกิจคลาวด์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจใน ฐานะพันพันธมิตรทางเทคโนโลยีขององค์กรต่างๆกว่า 200 ประเทศทั่วโลก 

อีกทั้ง ยังมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการในด้านนวัตกรรม AI มา อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของระบบ Google Distributed Cloud air-gapped (GDC air-gapped) เป็นระบบที่อยู่ภายใต้ขอบเขตข้อบังคับทางกฏหมายของประเทศ ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไร้ซึ่งการเชื่อมต่อกับ เครือข่ายอินเตอร์เน็ตสาธารณะโดยสิ้นเชิง จึงมีเสถียรภาพ และมีความปลอดภัย ของข้อมูลสูง เหมาะแก่การใช้สำหรับองค์กรในประเทศไทย 

โดยคาดหวังกลุ่มลูกค้า เป้าหมายเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่มี ความสำคัญ หรือเป็นความลับ เช่น การให้บริการทางการแพทย์ พลังงานและ สาธารณูปโภค หรือการให้บริการด้านความปลอดภัยสาธารณะ เป็นต้น  

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังถือเป็นช่วงเริ่มต้นของความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งยังไม่มี รายละเอียดเกี่ยวกับแผนงาน รวมถึงการสร้างกำไรที่ชัดเจน จึงยังถือเป็นประเด็น ที่ต้องติดตาม โดยหากมีความคืบหน้า ฝ่ายวิจัยจะนำเสนอในรายละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นจึงคงประมาณการและมูลค่าพื้นฐานของ GULF ที่ 56 บาท/หุ้น ด้านปัจจัยพื้นฐานยังเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง แนะนำทยอยสะสมลงทุนระยะยาว

ส่วนนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (Gulf Edge) เป็นบริษัทย่อยของ GULF (ถือหุ้น 100%) และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท GSA Data Center ในสัดส่วน 45% (ส่วนที่เหลือถือโดย Singtel 30% และ ADVANC 25%) ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับบริษัท Google AsiaPacific เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการระบบคลาวด์ Google Distributed Cloud air-gapped (GDC air-gapped)

โดยมองว่าประเด็นนี้จะเป็นบวกต่อทั้ง GULF และ ADVANC เพราะคาดความร่วมมือดังกล่าวจะส่งผลให้ GSA Data Center ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือน มี.ค. 2568 มีโอกาสที่จะได้ Google เป็นลูกค้า คาดจะเป็นบวกต่อ GULF มากกว่าในระยะยาว เนื่องจากการที่ GULF มีการจับมือกับ Google ผ่านบริษัทย่อยแทนที่จะเป็น GSA Data Center สะท้อนโอกาสต่อยอดธุรกิจอื่นๆ เช่น Cybersecurity และ AI เป็นต้น 

ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ GULF ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 52.75 บาท/หุ้น และ ADVANC ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 245.00 บาท/หุ้น