Talk of The Town

หุ้นไทยปีนี้ 1,400 จุด! บล.พาย ชี้ใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว มองครึ่งปีหลังปัจจัยบวกเข้ามาเพียบ


26 มิถุนายน 2567
บล.พาย มองหุ้นไทยใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ประเมินกรอบ SET ปีนี้ 1,350 -1,400 จุด รับครึ่งปีหลังรัฐอัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจและเม็ดเงินไหลเข้า TESG หนุนตลาด พร้อมชี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยใกล้เสด็จน้ำ

S2T_(เว็บ) หุ้นไทยปีนี้ 1,400 จุด!_0.jpg

นายณัฐพล จันทร์สิวานนท์  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารสูงสุดสายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันใกล้ถึงจุดต่ำสุด จากปัจจัยกดดันต่างๆ ที่เข้ามากระทบตลาดไปมากแล้ว และการเทขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สัดส่วนการถือครองลดลง จึงถึงเวลาที่ใกล้เสด็จน้ำ 

ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเห็นการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวกลับมาได้เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วยเช่นกัน

รวมไปถึง การปรับเกณฑ์หรือเงื่อนไขของกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) อาจจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้ในระยะสั้น แต่ก็ช่วยให้ผลักดันดัชนีได้ราว 10-20 จุด และปัจจัยภายนอกอย่างการปรับลดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะช่วยให้เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลมายังตลาดหุ้นกลุ่มกำลังพัฒนาได้มากขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสที่จะทิศทางของเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาด้วยเช่นกัน

สำหรับเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ประเมินจะอยู่ในกรอบ 1,350 - 1,400 จุด และกลยุทธ์การลงทุนภาวะตลาดในปัจจุบันเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน ในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยว และกลุ่มหุ้นค้าปลีก ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

ทั้งนี้ บริษัทได้เดินหน้าสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนแบบครบวงจร และพัฒนาบริการใหม่ Digital Wealth Management เพื่อนำพาลูกค้าสู่ความ มั่งคั่ง มั่นคง และความยั่งยืนทางการเงินในอนาคต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนลูกค้าให้สามารถลงทุนได้ทั้งในตลาดหุ้นไทย และตราสารอนุพันธ์ เพื่อรองรับความผันผวนของตลาด นอกจากนี้ ยังขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์ โดยการนำเสนอการซื้อขายหุ้นต่างประเทศบนแอปพลิเคชัน ลูกค้าสามารถเข้าถึงหุ้นต่างประเทศ ในตลาด NASDAQ สหรัฐอเมริกา และตลาดหุ้นฮ่องกง ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น                  

ในขณะเดียวกัน ยังขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ ผ่านการเปิดตัว Pi Private Wealth เพื่อสนับสนุน และรองรับลูกค้ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ครบวงจร และสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการ และโปรไฟล์ความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ในอนาคต โดยกำลังเสริมสร้างความสามารถในการจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการพัฒนาโซลูชัน Pi Digital Wealth ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแผนการดำเนินงานของเรา

ปัจจุบัน นักลงทุนมีการเปลี่ยนวิธีการลงทุนจากแบบดั้งเดิม ไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น และเริ่มมองหาโอกาสการลงทุนนอกตลาดประเทศไทย โดย บล. พาย อยู่ในระดับแนวหน้าของวงการการเงินดิจิทัล พร้อมมอบการลงทุนผ่านเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรตามที่นักลงทุนต้องการ ไม่เพียงแต่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางดิจิทัลที่เติบโตขึ้นเท่านั้น แต่ บล.พาย ต้องการนำพาลูกค้าไปยังทิศทางการลงทุนที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ และตรงตามความต้องการมากที่สุด ผ่านการให้ข้อมูลที่คัดสรรมาอย่างดีจากทีมรีเสิร์ช ที่อัปเดตข้อมูลทุกวันผ่านแอปพลิเคชัน

ทั้งนี้ ภายหลังจากการเปิดตัวแอปพลิเคชัน Pi Financial ปัจจุบัน มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 100,000 ครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และยังพบว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันมีเพิ่มมากขึ้นถึง 114% และมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมากกว่า 400 รายต่อวัน ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของโซลูชันการลงทุนที่ตอบโจทย์ของ บล.พาย โดยทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จะเดินหน้าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ราว 500,000 ดาวน์โหลด ภายในปลายปี 2567 นี้ 

สำหรับ Pi Private Wealth หนึ่งในธุรกิจใหม่ของ บล.พาย มุ่งเน้นในการมอบโซลูชันการลงทุนที่คัดสรรมาเพื่อนักลงทุนแต่ละราย โดยมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์การลงทุนที่ครบถ้วน จาก CIO Office หรือทีมวิเคราะห์เศรษฐกิจ และข้อมูลด้านการลงทุน  ซึ่งนำทีมโดยผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์ ทำให้สามารถส่งมอบแผนการลงทุนที่เฉพาะเจาะจง พร้อมกลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของนักลงทุนแต่ละรายได้อย่างดีเยี่ยม