เปิดโปง 5 กองทุนเด่น TESG อ่วม! พบผลตอบแทนติดลบเพียบ

หลังจากที่ข่าวคราวของกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ TESG ได้เตรียมปรับโฉมใหม่พร้อมกับปรับเงื่อนไขต่างๆให้มีความน่าสนใจและดึงดูดเม็ดเงินให้คนไทยมาให้ความสำคัญมากขึ้น ก็ถือเป็นข่าวดีต่อตลาดหุ้นไทยไม่น้อย แต่ในอีกด้านหนึ่งอย่างการสร้างผลงานของกองทุนที่ถือเป็นตัวชี้วัดให้นักลงทุนนั้น กลับไม่เป็นเช่นนั้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูลของทางสำนักข่าว Share2Trade กลับพบว่าผลตอบแทนของกอง TESG ส่วนใหญ่ยังคงติดลบในช่วง 6 เดือนย้อนหลัง แม้ว่าจะเป็นกองที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นที่สุด 5 อันดับแรก ก็มีเพียงกองทุนเดียวเท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก

โดยกองทุนเปิดเคเคพี พันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ KKP GB THAI ESG เป็นกองที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2.11% ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยและกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน เช่น ตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, ตราสารเพื่อความยั่งยืน และตราสารส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 3 และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

ถัดมาเป็นกองทุนเปิด แอสเซทพลัส หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ ASP-ThaiESG ที่ผลตอบแทนติดลบอยู่ 2% โดยจะลงทุนในหุ้น SET และ mai ที่ได้รับการคัดเลือกและยอมรับว่ามีความโดดเด่น ESG โดยจะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการจัดอันดับ SET ESG Rating ตั้งแต่ BBB ขึ้นไป ตามกระบวนการวิเคราะห์และคัดเลือกของ บลจ. ซึ่งระดับความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ 6  และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

ต่อมาที่ กองทุนเปิด วรรณ หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ ONE-THAIESG ซึ่งผลตอบแทนก็ยังคงติดลบ 3.23% มีนโยบายลงทุนในหุ้น SET และ mai ที่ได้รับการคัดเลือกและยอมรับด้านความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านความยั่งยืน (ESG) ซึ่งระดับความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ 6  และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

ตามมาด้วย กองทุนรวมบัวหลวงทศพลไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ B-TOP-THAIESG ที่ผลตอบแทนติดลบ 3.93% โดยจะลงทุนในหุ้น SET และ mai ที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านความยั่งยืน (ESG) แต่จะแตกต่างจากกองอื่นที่จะเน้นลงทุนหุ้น ESG เพียง 10 ตัวที่ผู้จัดการกองทุนคัดสรรแล้ว โดยระดับความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ 6  และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท

สุดท้ายกองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade 70/30 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) หรือ  KTAG70/30-ThaiESG ที่ผลตอบแทนติดลบ 4.16% ซึ่งเป็นกองผสมระหว่างการลงทุนในหุ้นที่มี SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 70% และตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนไม่เกิน 30% ซึ่งระดับความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ 5  และไม่ได้กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ