Talk of The Town

โบรกฯมอง CCET ปี 67-68 กำไรโตแรง ลดต้นทุนสำเร็จ-ขายสินค้ามาร์จิ้นสูง อัพราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.30 บาท


28 มิถุนายน 2567
หลังจากในช่วงที่ผ่านมา NVIDIA ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก รายงานผลประกอบการออกมาอย่างโดดเด่น ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทำให้ราคาหุ้นตอบรับในเชิงบวก

โบรกฯมอง CCET ปี 67-68 copy_0.jpg

ดังนั้นจากการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ NVIDIA จะสนับสนุน Sentiment หุ้น Electronic ทั่วโลก โดยเฉพาะกระแส AI ที่ยังไปได้ต่อ
แต่อย่างไรก็ตามแม้หุ้น Electronic ไทยไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่การเติบโตของ AI และ Data Center ต่อเนื่องและการที่ AI เริ่มเข้ามาสู่ Hardware มากขึ้น ทำให้ระยะยาว Consumer Electronic จะกลับมาเติบโต เช่นเดียวกัน

หากจะมองหาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่โดดเด่นสุดในตลาดหุ้นไทย ณ ขณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นหุ้น CCET หรือ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นให้ผลตอบแทนเป็นบวกกว่า 93% ซึ่งเอาชนะหุ้นประเภทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่นๆแบบขาดลอย

โดยผลประกอบการของ CCET ในไตรมาส 1/67 ที่ผ่านมาก็สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะตัวเลขของกำไรสุทธิที่สามารถทำได้กว่า 541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% เมื่อเทียบกับปีก่อน นั่นเป็นเพราะการบริหารธุรกิจได้ดีขึ้น

ดังนั้นเองจึงส่งผลให้นักวิเคราะห์หลายแห่งแนะนำทยอยสะสมหุ้น CCET พร้อมกับปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่เป็น 4.30 บาท จากเดิมที่ราคา 3.10 บาทต่อหุ้น 
เนื่องจากนักวิเคราะห์ประเมินว่า ความสามารถการทำกำไรแข็งแกร่ง ความสำเร็จจากการลดต้นทุน และเดินหน้าขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มกำไรในอนาคต รองรับอุปสงค์สินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกฟื้นตัว

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KKS) ระบุว่า มองบวกกับแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของ CCET เนื่องจากคาดว่ากำไรจะโตแรงทั้งในปี 2567 และปี 2568 หลังจาก CCET ปรับโครงสร้างการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินตั้งแต่ไตรมาส 1/67 

ขณะที่อุปสงค์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป นอกจากนี้บริษัทฯ ยังขยายโรงงานขนานใหญ่ คาดว่าการผลิตจะเข้าสู่ระดับ mass production ภายในสิ้นปีนี้

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ CCET โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.30 บาท จากเดิม 3.1 บาท อิง EV/EBITDA 8.9 เท่า (+1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) โดยปรับเป้าหมาย EV/EBITDA ขึ้นจากเดิมที่ใช้ค่าเฉลี่ย 7.1 เท่า เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการ 
ทั้งนี้ มีโอกาสที่ Valuation ของ CCET จะพรีเมียมกว่าคาดไปที่ระดับ +2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานแห่งใหม่ที่จะเปิดดำเนินการในไตรมาส 3/67 สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว” 

พร้อมกับปรับประมาณการกำไรปี 2567-2568 ขึ้นจากเดิม 24% และ 22% เป็น 2.38 พันล้านบาท และ 2.67 พันล้านบาทตามลำดับ โดยที่ยังคงสมมติฐานเรื่องของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นไว้ตามเดิม แต่ทำการปรับสมมติฐานรายจ่าย SG&A ลง หลังจากที่รายจ่าย SG&A ในไตรมาส 1/2567 ได้ลดลงมาก และเป็นฐานใหม่ของ CCET ซึ่งต่ำกว่าคาดไว้เดิมมาก

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินหุ้น CCET โดยระบุว่า ทางปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการ แต่จากผลประกอบการไตรมาส 1/67 ที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการลดต้นทุนที่จะยังทำเข้มข้นต่อเนื่อง คาดว่าประมาณการกำไรปกติของ CCET ในปี 2567 น่าจะในกรอบราว 2.0-2.2 พันล้านบาท สูงกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าของตลาดที่ระดับ 1.9 พันล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ราว 0.19 ถึง 0.21 บาทต่อหุ้น 

หากอิงกำไรระดับ 2.2 พันล้านบาท EPS 0.21 บาทต่อหุ้น และกรอบ PER ที่ระดับ 15 เท่า-18 เท่า หุ้น CCET จะมีกรอบ Valuation อยู่ระหว่าง 3.16-3.80 บาทต่อหุ้น เป็นกรอบสำหรับเก็งกำไรในช่วงสั้น 

อย่างไรก็ดี หากบริษัททำกำไรได้ดีกว่ากรอบคาดการณ์ เช่น กำไรที่ 2.5 พันล้านบาท หุ้นมีโอกาสไปได้ 4.20 บาท +/- แต่เบื้องต้นประเมินว่ายังเป็นกรณีที่ท้าทาย ในเชิงกลยุทธ์ราคาหุ้นปรับขึ้นมาร้อนแรงหลังประกาศผลประกอบการรอสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว 

และปิดท้ายกันที่บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ประเมิน CCET ว่า คาดว่ายอดขายปี 2567 อาจซึมลงเล็กน้อย -5% จากปีก่อน แต่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาราว 5% จากสัดส่วนการขายสินค้า  มาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายและบริหารคาดว่ายังทรงตัวที่ 3% ของยอดขายได้ 

ขณะที่คาดว่าดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงหลังได้เงินเพิ่มทุนก่อนหน้านี้ 6,900 ล้านบาท ซึ่งเริ่มนำไปคืนหนี้บางส่วน เบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ที่ 1,907 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.4% จากปีก่อน

ทั้งนี้ ราคาหุ้นเริ่มตึงตัว โดยปรับขึ้นมาจากงบไตรมาส 1/67 ที่ออกมาแล้ว และแม้จะมีมุมมองเชิงบวกว่าการดำเนินงานที่ออกมาสะท้อนปัจจัยที่เคยแจ้งไว้แล้ว และทำให้ CCET จะเป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่กำไรสุทธิจะขยายตัวสูงสุดในปี 2566 และโตต่อในปี 2567 

จากการให้น้ำหนักการขายไปที่สินค้ากำไรสูงมากขึ้น และการได้สินค้าใหม่ๆ มาเติมช่วยลดการพึ่งพาสินค้าเดิมไปได้และทำให้อัตรากำไรขยายตัวขึ้น อีกทั้งจากการเป็นผู้รับจ้างผลิตอิเล็กทรอนิกส์ (OEM) คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตมาไทย ไม่ว่าสหรัฐจะกันจีน หรือจีนกีดกันไต้หวัน ทั้งนี้ ยังคงประเมินราคาเหมาะสมเบื้องต้นปี 2567 ไว้ที่ 3.60 บาท อิง P/E 20 เท่า  จึงแนะนำรอทยอยสะสมช่วงราคาหุ้นย่อตัว