Talk of The Town
ดีเดย์! Uptick Rule เริ่มใช้วันนี้ โบรกฯ คาดช่วยจำกัดดาวน์ไซด์ SET พร้อมเผยโฉม 11 หุ้นได้รับอานิสงส์
01 กรกฎาคม 2567
วันนี้ (1 ก.ค.67) จะเป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บังคับใช้มาตรการขายชอร์ตแบบใหม่ จากเดิมใช้เกณฑ์ Zero Plus Tick Rule (ให้ขายชอร์ตได้ที่ราคาเท่ากับหรือสูงกว่าราคาซื้อขายล่าสุด) เป็น Uptick Rule (ให้ขายชอร์ตได้ที่ราคาสูงกว่าราคาซื้อขายล่าสุด)
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา SET Index เผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างหนาแน่นรวม 3.5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มาตรการ ‘Uptick’ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คาดอาจนำไปสู่การเกิด ‘Short Covering’ ของหลายอุตสาหกรรมที่มีสถานะ Short คงค้างเป็นจำนวนมากหรืออย่างน้อยจะช่วยจำกัด Downside risk เพิ่มเติมต่อ SET Index ในช่วงไตรมาส 3/67 แนะนำเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม ค้ำปลีก , ขนส่งมวลชน, โรงไฟฟ้า และการเงิน
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จำนวนหุ้นที่มียอด Short คงค้างล่าสุดที่ 418 บริษัท หากเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงยอด Short ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว สิ้นสุด วันที่ 28 มิ.ย.เทียบกับ 27 มิ.ย. พบว่า จำนวนหุ้นที่มียอด Short ส่วนใหญ่คงที่ 193 บริษัท (vs prev. 192 บริษัท)
โดยวันนี้จะเป็นวันทำการแรกก่อนที่มาตรการ Uptick Rule จะเริ่มมีผล 1 ก.ค. โดยมองหุ้นที่มีพื้นฐานระยะ
ยาวแข็งแกร่ง ปรับฐานลึกกว่าตลาด และยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะสูงเกิน 1% มีโอกาสเห็นการ Cover Short
ได้แก่ HANA (ยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว 2.84%, ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ลดลง 12.7% เทียบ SET ลดลง 8.1%) IVL (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -28%, YTD 2.28%)
BTS (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -38.2%, YTD 1.6%), BCH (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -23.7%, YTD 1.3 2 %), GPSC (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -18 %, YTD 1.28 %)
AMATA (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -16 .3 %, YTD 1.2 %), CRC (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -25%, YTD 1.1%), AP (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -29 .7 %, YTD 1.11%) และBGRIM (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -20.7%, YTD 1.0%)
รวมถึงกลุ่มที่มีน้ำหนักใน SETESG สูง ขณะที่มียอด Short สูง TOP (น้ำหนักใน SETESG 1.1%, ยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว 2.7% และ AOT (น้ำหนักใน SETESG 7.7%, ยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว 1.11%)
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา SET Index เผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างหนาแน่นรวม 3.5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มาตรการ ‘Uptick’ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คาดอาจนำไปสู่การเกิด ‘Short Covering’ ของหลายอุตสาหกรรมที่มีสถานะ Short คงค้างเป็นจำนวนมากหรืออย่างน้อยจะช่วยจำกัด Downside risk เพิ่มเติมต่อ SET Index ในช่วงไตรมาส 3/67 แนะนำเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม ค้ำปลีก , ขนส่งมวลชน, โรงไฟฟ้า และการเงิน
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จำนวนหุ้นที่มียอด Short คงค้างล่าสุดที่ 418 บริษัท หากเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงยอด Short ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว สิ้นสุด วันที่ 28 มิ.ย.เทียบกับ 27 มิ.ย. พบว่า จำนวนหุ้นที่มียอด Short ส่วนใหญ่คงที่ 193 บริษัท (vs prev. 192 บริษัท)
โดยวันนี้จะเป็นวันทำการแรกก่อนที่มาตรการ Uptick Rule จะเริ่มมีผล 1 ก.ค. โดยมองหุ้นที่มีพื้นฐานระยะ
ยาวแข็งแกร่ง ปรับฐานลึกกว่าตลาด และยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะสูงเกิน 1% มีโอกาสเห็นการ Cover Short
ได้แก่ HANA (ยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว 2.84%, ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ลดลง 12.7% เทียบ SET ลดลง 8.1%) IVL (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -28%, YTD 2.28%)
BTS (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -38.2%, YTD 1.6%), BCH (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -23.7%, YTD 1.3 2 %), GPSC (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -18 %, YTD 1.28 %)
AMATA (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -16 .3 %, YTD 1.2 %), CRC (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -25%, YTD 1.1%), AP (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -29 .7 %, YTD 1.11%) และBGRIM (ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว -20.7%, YTD 1.0%)
รวมถึงกลุ่มที่มีน้ำหนักใน SETESG สูง ขณะที่มียอด Short สูง TOP (น้ำหนักใน SETESG 1.1%, ยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว 2.7% และ AOT (น้ำหนักใน SETESG 7.7%, ยอด Short Sales ที่ยังไม่ปิดสถานะ/ทุนชำระแล้ว 1.11%)