จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : “เมียนมา” มาแรงเบอร์ 2 โอนห้องชุดในไทย หนุน SA โรดโชว์บุกตลาดต่างประเทศ


01 กรกฎาคม 2567
สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในไทยปรับตัวดีขึ้นจากชาวต่างชาติ  โดยเฉพาะชาวเมียนมาที่สนใจซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในไทยมาก พุ่งขึ้นแตะอันดับ 2 รองจากชาวจีน  สอดคล้องกับกลยุทธ์การทำตลาดของบมจ.ไซมิส แอสเสท  (SA)ที่เปิดตลาดต่างประเทศ โดยเลือกโรดโชว์ครั้งแรกของบริษัทฯ ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 

รายงานพิเศษ SA copy.jpg

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติทั่วประเทศในไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งพบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติ 3,938 หน่วย เพิ่มขึ้น  4.3% และมีมูลค่ารวมของการโอนกรรมสิทธิ์ 18,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  5.2% โดยเป็นพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติทั่วประเทศจำนวน 173,007 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น  2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ในไตรมาสนี้ สัดส่วนหน่วยและมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติต่อการโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศขยับเพิ่มขึ้นเป็น 16.% จาก 15.9% และ 28.6% จาก 24.3% ตามลำดับ ในด้านของพื้นที่ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 21.1% จาก 19.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นไตรมาสที่มีสัดส่วนที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 

โดยจังหวัดที่มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากสุด 5 อันดับ ประกอบด้วย

อันดับ 1 คือ ชลบุรี จำนวน 1,521 หน่วย มีสัดส่วน 38.6% มูลค่า 4,165  ล้านบาท

อันดับ 2 คือ กรุงเทพมหานคร 1,498 หน่วย โดยมีสัดส่วน 38.0% มูลค่า 10,699 ล้านบาท

ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึง 76.6% และ 82.5% ตามลำดับ

สำหรับสัญชาติของกลุ่มผู้ที่รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสูงสุด 3 สัญชาติในไตรมาส 1 ปี 2567 ประกอบด้วย

อันดับ 1
คือ ชาวจีน ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ 1,596 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 43.8% มูลค่า 7,570 ล้านบาท

อันดับ 2 คือ ชาวพม่า จำนวน 392 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 10.0% มูลค่า 2,207 ล้านบาท

อันดับ 3 คือ ชาวรัสเซีย จำนวน 295 หน่วย และมีสัดส่วน 7.5% มูลค่า 924 ล้านบาท 

ทั้งนี้ชาวพม่าเป็นสัญชาติที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง  415.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยขยับลำดับขึ้นอย่างรวดเร็ว จากลำดับที่ 25 ในปี 2564 เป็นลำดับที่ 6 ในปี 2565 และ เป็นลำดับที่ 4 ในปี 2566 โดยล่าสุดขึ้นมาเป็นลำดับ 2 ในไตรมาส 1 ปี 2567  

ความสนใจซื้อห้องชุดในประเทศไทยของชาวเมียนมา ตอกย้ำกลยุทธ์การทำธุรกิจของ บมจ.ไซมิส แอสเสท  (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด "Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต" ซึ่ง “รีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี SA  ที่ระบุว่า บริษัทฯ ได้ยกทัพโครงการอสังหาฯ ออกบูธในงาน Siamese Asset Property Showcase ณ โรงแรม Chatrium Hotel Royal Lake Yangon โดยเป็นการโรดโชว์ครั้งแรกของบริษัทฯ ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าและนักลงทุนชาวเมียนมาอย่างท่วมท้น นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดประตูสู่อนาคตใหม่สำหรับผู้ที่สนใจและนักลงทุนในกลุ่มประเทศเป้าหมายใหม่

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกคาดว่า จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง  เนื่องจากมีแผนการทยอยโอนโครงการ Landmark At MRTA Station ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 ประกอบกับมียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ประมาณ 7,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 68% อีกทั้งมีแนวโน้มการรับรู้รายได้ธุรกิจจากการให้บริการเพิ่มขึ้น ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน

"ในปีนี้เรามีความเชื่อมั่นว่าผลงานจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการสนับสนุนจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทฯที่เข้ามาเป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีของการพักอาศัย ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการ ธุรกิจเกี่ยวกับ Spa & Wellness เป็นต้น" นางสาวรีย์ฐิตา กล่าว  

ส่วนธุรกิจโรงแรมจำนวน 5 แห่ง คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวหลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางและการเปิดประเทศ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวแบบ workation (work + vacation) ที่นักท่องเที่ยวสามารถทำงานไปพร้อมกับการพักผ่อนได้ สนับสนุนการเข้าพักระยะยาวมากยิ่งขึ้น และมีการกระจายตัวของลูกค้าค่อนข้างดี ทั้งในเอเชีย โดยเฉพาะ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย รวมถึงนักท่องเที่ยวยุโรป รัสเซีย และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง