ครึ่งปีแรก "ทวีฉัตร จุฬางกูร" ตุนหุ้น NWR ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่ Top Three พบโผล่ถือ VGI รวดเดียว 210 ล้านหุ้น

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในครึ่งแรกของปี 2567 ดัชนีหุ้นยังคงให้ผลตอบแทนลดลงอย่างต่อเนื่องกว่า 7% โดยดัชนีหุ้นของกลุ่มอุตสหากรรมส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง มีเพียง 4 หมวดอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรม อาหาร ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.92% ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 1.26% ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและของใช้ส่วนตัวเพิ่มขึ้น 19.96% และสื่อสาร เพิ่มขึ้น 5.29%



จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนพอร์ตลงทุนของ "ทวีฉัตร จุฬางกูร" นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งมีพอร์ตการลงทุนหุ้นจำนวน 33 บริษัท โดยล่าสุดมีบริษัทในพอร์ตลงทุนได้ปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ เดือนมิถุนายน 2567  พบว่า มี 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน)VGI บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) NWR  

จากข้อมูลดังกล่าวเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน พบว่า"ทวีฉัตร จุฬางกูร"ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นมากขึ้นทั้ง 2 บริษัท โดยได้เพิ่มการถือหุ้น NWR เป็นจำนวน 38,486,800 หุ้นคิดเป็น 1.49% จากเดิมเคยถือหุ้นจำนวน 28,486,800 หุ้นคิดเป็น 1.10% และขึ้นแท่นแตะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของบริษัท โดยมี"พลพัฒ กรรณสูต"เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อับดับ 1 ถือหุ้นจำนวน 264,910,285 หุ้นคิดเป็น 10.25% รองลงมาเป็นของบริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 75,640,677 หุ้นคิดเป็น 2.93%

ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นVGI จากเดิมไม่ปรากฎรายชื่อผู้ถือหุ้น แต่ปัจจุบันเพิ่มการถือหุ้นจำนวน 210,766,806 หุ้นคิดเป็น 1.88% ดังนั้นน่าจะเป็นไปได้ว่า บุคคลดังกล่าวได้เข้ามาทยอยซื้อหุ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ในจำนวนที่สูงมาก 

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นVGI ล่าสุดประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 6,391,656,950 หุ้น คิดเป็น 57.10% ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)935,966,761 หุ้น คิดเป็น 8.36% บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดย บลจ. เมธา จำกัด 451,104,742หุ้น คิดเป็น 4.03% 

บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 379,701,465หุ้น คิดเป็น 3.39% CGS International Securities Hong Kong Limited. 312,139,040 หุ้น คิดเป็น 2.79% ทวีฉัตร จุฬางกูร 210,766,806 หุ้น คิดเป็น1.88% SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 188,326,381หุ้น คิดเป็น 1.68% UBS AG HONG KONG BRANCH155,133,550 หุ้น คิดเป็น 1.39% นเรศ งามอภิชน 97,000,000 หุ้น คิดเป็น0.87% คีรี กาญจนพาสน์ 67,886,000 หุ้น คิดเป็น 0.61% บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด 65,915,000หุ้น คิดเป็น 0.59% ภิญญลักษน์ กีรติพัฒนนันท์ 57,011,010 หุ้น คิดเป็น 0.51%

ด้านนักวิเคราะห์บล.กรุงศรี เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ Trading Buy หุ้นVGI ที่ TP 1.7 บาท ลุ้น 1Q24/25F ฟื้นเป็นกำไร โดยมอง Positive คาดผลการดำเนินงาน VGI ฟื้นเป็นกำไรในปี FY24/25F (เม.ย.24-มี.ค.25) ในรอบ 3 ปี หลังขาย KEX หยุดรับส่วนแบ่งขาดทุน และธุรกิจหลักผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นลดลงมาซื้อขายที่ PBV’24/25F เพียง 0.7x สะท้อนความกังวลการด้อยค่าเงินลงทุนใน JMART แล้ว เปลี่ยนคำแนะนำเป็น Trading Buy (TP 1.70 บาท)

ขณะที่ พอร์ตลงทุนของ"ทวีฉัตร จุฬางกูร" ปัจจุบัน ถือลงทุน ประกอบด้วย AF 67,893,800 หุ้น คิดเป็น 4.24 % AIRA 1,398,104,298 หุ้น คิดเป็น 22.14 % AMATAV 22,578,600 หุ้น คิดเป็น2.41%APURE 36,899,880 หุ้น คิดเป็น 3.85% ASAP 94,295,700 หุ้น คิดเป็น 12.99% BEC 284,844,000 หุ้น คิดเป็น 14.24% CI 244,444,200 หุ้น คิดเป็น 22.92% FN 86,253,200 หุ้น คิดเป็น 8.63% GRAMMY 134,735,723หุ้น คิดเป็น16.43% GSTEEL 432,208,900หุ้น คิดเป็น1.49% IFEC 64,060,600 หุ้น คิดเป็น 3.17% IFS 5,334,900 หุ้น คิดเป็น 1.08% INET 16,148,000 หุ้น คิดเป็น 3.22% JCKH 82,084,836 หุ้น คิดเป็น 1.08% 

JCKH-W1 21,521,209 หุ้น คิดเป็น 9.64% KASET 13,500,000 หุ้น คิดเป็น 4.86% KEX 27,932,100 หุ้น คิดเป็น 1.6%  KKC 13,231,600 หุ้น คิดเป็น 0.88% LANNA 16,000,000 หุ้น คิดเป็น 3.05% LOXLEY 96,022,100 หุ้น คิดเป็น 4.24% MODERN 55,529,800 หุ้น คิดเป็น 7.4%MUD 66,270,700 หุ้น คิดเป็น 6.29%NNCL 506,006,000 หุ้น คิดเป็น24.7% NOK 839,569,990 หุ้น คิดเป็น 22.51% NWR 38,486,800 หุ้น คิดเป็น 1.49% 

ONEE 84,488,000 หุ้น คิดเป็น 3.55% SAFARI 286,000,000หุ้น คิดเป็น 9.96% SAMART 26,539,400 หุ้น คิดเป็น 2.64% SST 61,168,432 หุ้น คิดเป็น 11.62% TAE 9,957,100 หุ้น คิดเป็น 1%TSC 21,942,600 หุ้น คิดเป็น 8.45% TVT 39,447,500หุ้น คิดเป็น 4.93%TWPC 7,114,200 หุ้น คิดเป็น 0.81%VGI 210,766,806 หุ้น คิดเป็น 1.88%