Smart Investment

SABUY พ่ายเกมส์หุ้น "กลุ่มแจ้งอยู่"กลายเป็น "ตาอยู่" เก็บหุ้น SBNEXT ราคาถูก-คุมอำนาจบริหาร


07 กรกฎาคม 2567
Mr.Data

อาณาจักร SABUY บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SABUY) ที่กำลังกลายเป็นตำนาน… ล่มสลายไปพร้อมๆกับ “ชูเกียรติ รุจนพรพจี อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่ง และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY ที่วันนี้ เหลือสัดส่วนเพียง 50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.99% หลังเจอมรสุมเกมส์หุ้น และเขาพยายามออกเรียกร้องให้หน่วยงานตลาดทุน ตรวจสอบการทำ Naked Short 

SABUY ขาดทุนยับ 521 ลบ. copy.jpg

เพราะเขามองว่าเป็นต้นตอที่หุ้น SABUY ดิ่งเหว เกินปัจจัยพื้นฐาน กระทบความเชื่อมั่น ลามธุรกิจ และกระทบราคาหุ้นที่กลุ่ม SABUY ถืออยู่ ส่งผลให้หุ้น SABUY และหุ้นที่เข้าลงทุน ถูก “ฟอร์ซเซล” เสียทั้งเงิน…เสียทั้งอำนาจบริหาร

นี่คืออีกหนึ่งใน “หายนะ” ของ SABUY ที่เข้าลงทุนใน บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) (SBNEXT) เดิมคือ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) (TSR) ที่ SABUY เข้าถือหุ้นใหญ่ในปี 2565 ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น SBNEXT 

SABUY ทุ่มเงินลงทุนกว่า 533.91 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น TSR เพื่อต่อยอดธุรกิจเครื่องดื่มกรองน้ำร่วมกับ TSR จาก “กลุ่มแจ้งอยู่” โดยเข้าถือหุ้น 136.90 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.90% ต้นทุนเฉลี่ยราว 3.91 บาท/หุ้น 
และ “กลุ่มแจ้งอยู่” ยอมหลีกทางให้ SABUY นำทัพในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมผู้บริหารชุดใหม่

แต่หลังจากที่กลุ่ม SABUY เข้ามาจัดทัพธุรกิจ SBNEXT ผลการดำเนินงานก็ “ไม่ตรงปก” เป้าปี 2566 บอกจะไป 4 พันล้านบาท ไปได้จริงแค่ 1.6 พันล้านบาท แถมยังพลิกขาดทุนกว่า 86.49 ล้านบาท จากที่ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 71.99 ล้านบาท และในไตรมาส 1/2567 มีรายได้เพียง 363 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิกว่า 93.15 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุดหลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 พบว่า บริษัท เบตเตอร์ ดรีมส์ จำกัด ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่คือ “กลุ่มแจ้งอยู่” กลับมาขึ้นแท่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ถือหุ้น SBNEXT จำนวน 113.11 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.17% 

ส่วน SABUY สัดส่วนถือหุ้น SBNEXT ลดเหลือเพียง 34.85 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.76% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 เนื่องจากถูก “ฟอร์ซเซล”

เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงที่ราคาหุ้น SBNEXT ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในเดือนมิ.ย. “เอกรัตน์ แจ้งอยู่” ไล่เก็บหุ้นตลอดทาง ตั้งแต่วันที่ 18-27 มิ.ย. ราคาตั้งแต่ 0.22-0.37 บาท/หุ้น ราว 9 ล้านหุ้น 

ถ้าเปรียบเทียบต้นทุนที่ก่อนหน้า “กลุ่มแจ้งอยู่” ขายให้กับ SABUY ในราคา 3.90 บาท/หุ้น ราคาหุ้นที่กลับมาเก็บรอบใหม่ เหมือน “ส้มหล่นทับ” เป็นที่มาซึ่งทำให้ “กลุ่มแจ้งอยู่” กลายเป็น “ตาอยู่” กลับมานำทัพ SBNEXT อีกครั้ง

“เอกรัตน์ แจ้งอยู่” กลับมารอบนี้ พร้อมกับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SBNEXT และ “กลุ่มแจ้งอยู่” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่งตัวจริงเสียงจริง!!!

พร้อมพันธมิตรใหม่ “ซัน-กระทรวง จารุศิวะ” ที่โผล่เข้าถือหุ้น SBNEXT จำนวน 17.46 ล้านหุ้น หรือ 2.89% ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 โจทย์มีอยู่ว่า การกลับมาของ “กลุ่มแจ้งอยู่” จะไปยังไงต่อ!

เพราะ SABUY ได้ “ทิ้งบอมบ์” ให้ “กลุ่มแจ้งอยู่” เป็นผู้ถอดสลัก และต้องชี้แจงสำนักงานก.ล.ต. ภายในวันที่ 10 ก.ค.67 นี้ กรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินในไตรมาส 1/67 กับ 5 ประเด็นที่ต้องชี้แจง 

ประกอบด้วย (1) การแก้ปัญหาสภาพคล่อง (2) การกู้ยืมเงินและการนำสินทรัพย์ไปค้ำประกันให้กลุ่มบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 24.92% การลงทุนในหลักทรัพย์และหุ้น SABUY และการไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์การทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน 

(3) นโยบายการพิจารณาลงทุนและวัตถุประสงค์การลงทุนในตราสารทุน การบริหารความเสี่ยงและติดตามผลตอบแทนจากการลงทุนสัดส่วน แหล่งเงินทุน ความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบ (4) นโยบายการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และสาเหตุการเพิ่มขึ้นของรายการดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งแนวทางการติดตามหนี้ และ (5) หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีความ

“กลุ่มแจ้งอยู่” จะ “เอาอยู่” หรือไม่… คงต้องรอคำตอบในวันที่  10 ก.ค.นี้  แล้วจะกลับมาพลิกฟื้นธุรกิจ SBNEXT อย่างไร เพราะเพียงแค่งบไตรมาส 1/67 ขาดทุนสุทธิกว่า 93.15 ล้านบาท ต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ขาดทุนกว่า 86 ล้านบาท  

สาหัสเอาการ SBNEXT แต่คนที่สบายตัวจริง ไม่รู้หายไปไหน ใครรู้วานบอกที!!!

SABUY ขาดทุนยับ 521 ลบ. 1-1 copy.jpg