BEAUTY เปิดเกมรุกพลิกโฉมแบรนด์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เอาใจผู้บริโภค ตั้งเป้าโตมากกว่า 60%
BEAUTY ปรับกลยุทธ์การตลาดดัน Beauty Buffet สร้างกระแสความสวย พร้อมดึงพรีเซนเตอร์คนรุ่นใหม่ ขยายฐานลูกค้า ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Innovative & Trendy สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าเพิ่มรายได้ทุกช่องทางจำหน่าย ตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโตมากกว่า 60%
นายพิศาล ธาราพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ในปีนี้ “Beauty Buffet” จะมุ่งเน้นทำการตลาดในประเทศมากขึ้น ทั้งในด้านการสื่อสารแบรนด์ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การเพิ่มช่องทางจำหน่าย และวางเป้าหมายรายได้เติบโตมากกว่า 60% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 441 ล้านบาท
โดยการสร้างแบรนด์ในปีนี้จะเน้นการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบในแพลตฟอร์มออนไลน์ มีการใช้ KOL และ พรีเซนเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่แบรนด์ไม่เคยใช้มาก่อน เข้ามาสื่อสารถึงคุณสมบัติ ความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ที่แมทช์กับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งสร้างกิจกรรมที่สนุกสนาน เข้าถึงง่าย เพื่อสร้างความสดใสให้กับแบรนด์มากขึ้นและ Beauty Buffet กลับมาสร้างกระแสความสวยให้กับกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ
ทั้งนี้ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Beauty Buffet Scentio Vitamin C Body Bright & Anti-Aging Body Lotion, Beauty Buffet INVISIBLE SUNSCREEN UV PROTECTION SPF 50 PA++++ กันแดดล่องหน เนื้อครีมบางเบาเหมือนลืมทา โดยมีพรีเซนเตอร์ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “กลัฟ- คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่
บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Beauty Buffet Carissa Serie ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้เป็น ผลิตภัณฑ์ Innovative & Trendy ที่พัฒนาสูตรขึ้นใหม่ เน้นการบำรุงผิว มอบความกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื่น ช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและแลดูกระจ่างใสด้วยสารสกัดจาก Carissa carandas extract หรือ สารสกัดจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซี แอนโทไซยานิน และ AHA ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และผลัดเซลล์ผิว ผสานคุณค่า Superfruit จาก Camu Camu ที่มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 50 เท่า ช่วยเผยผิวให้กระจ่างใส สุขภาพดี อิ่มฟู ลดเลือนความหมองคล้ำ และจุดด่างดำ และยังมาพร้อมกับ Active Ingredient ที่ทรงคุณค่าการบำรุง ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดจากสเปิร์มของปลาแซลมอน (PDRN) ช่วยเพิ่มคอลลาเจนช่วยให้ผิวนุ่มฟู Arbutin ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานินเพื่อลดรอยดำ Niacinamide ช่วยจุดด่างดำดูจางลง สำหรับสินค้า Beauty Buffet Carissa Serie ประกอบด้วย 5 ไอเท็ม 1. Beauty Buffet Carissa Hydra Glow Moisturizer 2. Beauty Buffet Carissa Hydra Glow Essence 3. Beauty Buffet Carissa Hydra Glow Serum 4. Beauty Buffet Carissa Hydra Glow Body Lotion และ 5. Beauty Buffet Carissa Hydra Glow Serum ขนาดพกพา ซึ่งขณะนี้ได้เข้าจำหน่ายใน 7-11 ทั่วประเทศ กว่า 13,000 สาขา พร้อมเปิดตัวนักร้องชื่อดังเป็นพรีเซนเตอร์
ช่องทางร้าน BEAUTY BUFFET SHOP ปัจจุบันมีจำนวน 48 สาขา โดยเป็นร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่ในทำเลศักยภาพที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวจำนวน 12 แห่ง และรีโนเวทสาขาเดิมจำนวน 4 แห่ง ควบคู่ไปกับการสื่อสารการตลาดด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยกลยุทธ์แบบ O2O เต็มรูปแบบ เพื่อผลักดันยอดขายต่อบิลและเพิ่มยอดขายต่อสาขาให้สูงขึ้น
ช่องทางโมเดิร์นเทรด มุ่งเน้นการนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับรูปแบบสินค้า ให้มีขนาดและราคาที่เหมาะสม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าวางจำหน่ายมากขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางสินค้าอุปโภค (Consumer Product) เช่น บิ๊กซี โลตัส ท็อปส์ วัตสัน CJ Express และล่าสุดได้วางจำหน่ายสินค้าใหม่ Beauty Buffet Carissa Hydra Glow Serum แบบซองใน 7-11 จำนวนมากกว่า 13,000 สาขา ฯลฯ ในส่วนของช่องทางเจอร์เนอร์รัลเทรด กระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายไปสู่ร้านค้าปลีกในระดับอำเภอ คัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพในพื้นที่ต่างๆ
ช่องทางอีคอมเมิร์ช ปรับปรุงรูปแบบการสื่อสาร แคมเปญกระตุ้นการขาย สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับในแพลตฟอร์มต่างๆ ให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมความสนใจผลิตภัณฑ์ที่ต่างกัน ทั้งในเว็บไซต์ของ BEAUTY BUFFET และ Market Place ชั้นนำ และทำการตลาดใน Social Media เน้นการขายสินค้าโดย Affiliate Marketing อาทิ TIKTOK และการ Live Streaming ในเฟสบุ๊คเพจของ BEAUTY BUFFET
ช่องทางต่างประเทศ เน้นพัฒนาโมเดลการขายใหม่ร่วมกับพันธมิตร เพื่อให้ตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ จำหน่ายและกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งขายปลีกและขายส่งให้ร้านค้า ควบคู่ไปกับการสื่อสารการตลาดด้วยภาพลักษณ์ใหม่ อีกทั้งเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้น เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันตลาดต่างประเทศมีสินค้าวางจำหน่ายใน 12 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ซาอุดิอาระเบีย ฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา พม่า ลาว มาลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้แบ่งตามช่องทางจำหน่าย แบ่งเป็น BEAUTY BUFFET SHOP จำนวน 47.16% อีคอมเมิร์ซ 8.83% โมเดิร์นเทรด 8.24%, เจนเนอรัลเทรด1.23%, อื่นๆ 1.66% ต่างประเทศ 33% (จีนสัดส่วนมากที่สุด 90%)
“ในปีนี้เราจะได้เห็น Beauty Buffet เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ผ่านการปรับกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1.เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ (Business Performance) 2. บริหารจัดการต้นทุน (Cost Efficiency) 3. เพิ่มความสามารถบุคคลากร (People) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีเป้าหมายคือ รายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบเติบโตมากกว่า 60% และพลิกกลับมามีกำไร”นายพิศาล กล่าว