B ตั้งเป้าปีหน้ารายได้ธุรกิจขนส่งโต 50% โฟกัสลูกค้ารายใหญ่-ขยายบริการด้านศุลกากร
B วางเป้าปีหน้ารายได้ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์โต 50% โดยใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดเข้ามาสนับสนุน โฟกัสลูกค้ารายใหญ่ในทุกอุตสาหกรรม ล่าสุดกำลังเจรจา”กลุ่มไอที-สินค้าราคาแพง” เพิ่มน้ำหนักให้บริการด้านศุลกากรมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งบริหารต้นทุนขนส่งให้มีประสิทธิภาพ
ดร.ปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในปีหน้า บริษัทจะใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดเข้ามาสนับสนุน เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดด โดยคาดว่ารายได้เฉพาะในส่วนของธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ จะเติบโต 50% ซึ่งกลยุทธ์สำคัญประกอบด้วย การขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย เน้นลูกค้ารายใหญ่ที่มีความต้องการใช้บริการกองรถปริมาณที่มาก สอดคล้องกับจำนวนรถหัวลากของบริษัทที่มีอยู่จำนวน 66 คัน โดยตั้งเป้าว่าในปีหน้ารถหัวลากที่เป็นของบริษัททั้งหมดจะให้บริการเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายใหญ่100% ส่วนลูกค้าทั่วไปจะใช้บริการซับคอนแทรคที่เป็นพันธมิตรแทน
นอกจากนี้บริษัทก็จะเพิ่มน้ำหนักธุรกิจการให้บริการด้านศุลกากรมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการบริหารจัดการด้านต้นทุนขนส่งให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้รถขนส่งที่เติมแก๊สเอ็นจีวี แทนการใช้น้ำมันมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยของเสียในอากาศ สอดคล้องกับนโยบายหลักของกลุ่ม B คือการทำธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือ Green Logistics
“ปีหน้าธุรกิจขนส่งจะโดดเด่นมาก จากการปรับกลยุทธ์เน้นลูกค้ารายใหญ่ เพิ่มน้ำหนักธุรกิจให้บริการด้านศุลกากร และบริหารจัดการต้นทุนขนส่ง รถของเราที่มีอยู่ทั้งหมด 66 คัน จะโฟกัสเฉพาะรายใหญ่ ที่มีความต้องการใช้บริการขนส่ง 100-200 เที่ยวต่อครั้ง จากเดิมเรามีสัดส่วนฐานลูกค้ารายใหญ่เพียง 10% แต่คิดเป็นรายได้ถึง 40% ดังนั้นถ้าเราเน้นรายใหญ่มากขึ้น นั่นก็หมายความว่ารายได้เราจะเติบโตโดดเด่นมาก ส่วนลูกค้าทั่วไปก็ส่งต่อให้ซับคอนแทรคที่เป็นพันธมิตร” ดร.ปัญญา กล่าว
ดร.ปัญญา ยังได้กล่าวต่อว่า กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในปีหน้าจะหลากหลายมากทั้ง กลุ่มเหล็ก กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มคลังสินค้าหรือ Wearhouse และล่าสุดกับเจรจากับลูกค้ากลุ่มไอที กลุ่มสินค้าราคาแพง ซึ่งโมเดลการให้บริการจะต้องมีเรื่องของการประกันภัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและตอบโจทย์การให้บริการ ขนส่งและโลจิสติกส์ครบวงจร