เรื่องเด่นวันนี้

DTCENT ปักหมุดครึ่งปีหลังลุยเปิดศูนย์ DTC SHOP รุกขยายงานด้านอบรมความปลอดภัยครบวงจร ต่อยอดธุรกิจสร้าง New S-Curve หนุนผลงานปี 67 โตแกร่ง


08 กรกฎาคม 2567
บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) ปักหมุดครึ่งปีหลังลุยเปิดศูนย์บริการ DTC SHOP ให้ครบ 20 แห่ง ภายในปีนี้ จากเดิมเปิดให้บริการแล้ว 12 สาขา เดินหน้าขยายงานด้านอบรมความปลอดภัยอย่างครบวงจร ต่อยอดธุรกิจ GPS Tracking-IoT Solutions หวังสร้าง New S-Curve ผลักดันผลงานปี 67 เติบโตแข็งแกร่ง 

DTCENT ทศพล คุณะเพิ่มศิริ_CEO_0.jpg

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2567) เปิดเผยว่า ภาพรวมแผนธุรกิจครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ จะเร่งเปิดศูนย์ DTC SHOP ให้ครบจำนวน 20 แห่ง ภายในปีนี้ จากปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 12 แห่ง ประกอบด้วย สาขาถนนบางนา-ตราด กม.6, สาขาเชียงใหม่, สาขาอุดรธานี, สาขาขอนแก่น, สาขาอยุธยา, สาขานครสวรรค์, สาขาพระราม 2, สาขาแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี, สาขามาบข่า จังหวัดระยอง, สาขาท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี, สาขานครราชสีมา และสาขาภูเก็ต โดยมีอุปกรณ์ GPS และกล้องติดรถวางจำหน่าย พร้อมให้บริการติดตั้งซ่อมบำรุง เพื่อให้ครอบคลุมผู้ใช้รถทุกประเภท

นอกจากนี้ DTCENT ได้ต่อยอดจากธุรกิจ GPS Tracking-IoT Solutions ขยายงานด้านการอบรมความปลอดภัยอย่างครบวงจรให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการวางระบบ คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3/67 และสามารถรับรู้รายได้ทันที 

ส่วนศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ Vehicle Monitoring and Support Center  ได้เปิดให้บริการ โดยเริ่มงานมอนิเตอร์ให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว

สำหรับงานด้าน IoT Solutions และระบบ AI บริษัทฯ วางแผนทำโครงการ Smart City Solution, Smart AI Solution ให้กับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความสนใจ ปัจจุบันได้รับงานพัฒนาโครงการเทศบาลนครรังสิตสู่เมืองอัจฉริยะ โดยใช้แอปพลิเคชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ (Rangsit City App) เป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนา เพื่อให้เข้าถึงประชาชน เป็นการเผยแพร่ข่าวสารประชาสัมพันธ์ รับแจ้งเหตุ ร้องเรียน การให้บริการต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง

ในส่วนของระบบ BAMS (Business Activity Management System) ได้เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 45 บริษัท 

ส่วนความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ขณะนี้ ได้รับงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของบริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) จะสามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ในปี 2568 และบริษัทฯ ได้รับใบ Certificate  IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์เรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเจรจาทางธุรกิจ คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

“ในครึ่งปีหลังของปีนี้ ประเมินว่า แนวโน้มธุรกิจยังมีทิศทางที่ดีจากการเร่งเปิดศูนย์ DTC SHOP ช่วยลดค่าใช้จ่ายการเดินทางของเจ้าหน้าที่และเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ ได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมต่อยอดธุรกิจ GPS Tracking-IoT Solutions โดยการเปิดอบรมความปลอดภัยอย่างครบวงจร เช่น การใช้รถใช้ถนน การขับขี่อย่างปลอดภัย และ Simulator นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก เพื่อสร้าง New S-Curve มั่นใจว่า ในปีนี้ผลงานของบริษัทฯ จะสามารถเติบโตตามแผนได้อย่างแข็งแกร่ง” นายทศพล กล่าวในที่สุด