ส่องงบไตรมาส 2/67 ของ “กลุ่มซีพี” ฟันกำไรรวมกันกว่า 1 หมื่นล้านบาท

อีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนไทยเข้าติดตามในช่วงนี้ ก็คือข่าวสารของการประกาศตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาส 2/67 ซึ่งกลุ่มที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษก็จะเป็นเหล่าหุ้นขวัญใจของนักลงทุน อย่างกลุ่มหุ้นเจ้าสัวซีพี หรือ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์



ดังนั้น ในวันนี้ทางเราจึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลถึงคาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการของกลุ่มหุ้นซีพีทั้ง 4 ตัว มานำเสนอให้แก่ผู้อ่านกันในครั้งนี้

โดยเริ่มกันที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/67 จะอยู่ที่ 5,600 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกัน 25% หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม(SSSG) ที่เพิ่มขึ้น 3-4% และส่วนผสมขายและมาร์จิ้นอาหารขึ้น จึงคาดอัตรากำไรขั้นต้นร้านเซเว่นสูงใกล้ไตรมาส 1/67 ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 80 บาท 

ต่อมา บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดกำไรไตรมาส 2/67 จะอยู่ที่ 5,222 ล้านบาท พลิกมีกำไรจากช่วงเดียวกันที่เคย จากการปรับราคาสุกรในทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ  โดยในเวียดนามกับจีนราคาสุกรปรับตัวขึ้นสูงกว่าจุดคุ้มทุนไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท 

ด้านบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/67 ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 32% จากช่วงเดียวกัน ตามยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ทั้งโลตัสส์และแมคโครที่ยังเติบโต , อัตรากำไรขั้นต้นของโลตัสส์ฟื้นจากการปรับปรุงกิจการในไทยและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากทำรีไฟแนนซ์กลางปีก่อน ทั้งนี้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 39 บาท 

สุดท้าย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ไตรมาส 2/67 ขาดทุนสุทธิที่ 954 ล้านบาท จากต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับ Integration Cost ซึ่งเป็นรายการ One-timeที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เช่น การรวมโครงข่ายสัญญาณ เป็นต้น 

แต่อย่างไรก็ดีหาก ไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะมีกำไรอยู่ที่ 1,046 ล้านบาท พลิกมีกำไรจากช่วงเดียวกันที่ขาดทุน 2,320ล้านบาท ด้วยต้นทุนการเงินที่ลดลง, ค่าใช้จ่ายการตลาดเพื่อแย่งลูกค้าลดลง และARPU ที่ยังปรับขึ้น ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท