หลังจากที่รัฐบาลประกาศ Timeline แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะให้ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน ภายใต้วงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยร้านค้า และประชาชนจะลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ในไตรมาส 3 และเริ่มแจกเงินในไตรมาส 4 ผ่าน Supper App ในปี 2567
ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความชี้แจงถึงความชัดเจนของผู้ที่ได้สิทธิ์รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล์ตดังนี้
ผู้มีสิทธิ์ได้เงิน 10,000 บาท ในโครงการ Digital Wallet
- อายุ 16 ปี ขึ้นไป ทุกคน ทั้งอยู่ในระบบภาษีและไม่อยู่ในระบบภาษี (ทั้งที่ยื่นแบบและไม่ยื่นแบบ)
- ตัด ผู้ที่มีรายได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปี ออก
- ตัด ผู้ที่มีเงินฝากในสถาบันการเงินพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ออกที่เหลือ ได้ทุกคน ซึ่งจะมีคนผ่านเงื่อนไขนี้ราว 50 ล้านคน
ในส่วนของการเปิดลงทะเบียนร้านค้าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.67 หรือต้นเดือน ส.ค.67 มีเป้าหมายเป็นร้านค้าขนาดเล็ก เบื้องต้นได้กำหนดเป้าหมายร้านค้าขนาดเล็กรายย่อยเข้าร่วม 1.4-1.5 ล้านราย แบ่งเป็น
-ร้านค้าที่มีข้อมูลในส่วนกระทรวงพาณิชย์ ที่จดทะเบียนนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา 9.1 แสนราย
-ร้านธงฟ้า ร้านอาหารธงฟ้า 1.5 แสนราย
-ร้านค้าโชห่วย ร้านอาหาร หาบเร่แผงลอย ตลาดนัด ของกระทรวงมหาดไทย 4 แสนราย
-กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 9 หมื่นราย
สำหรับขั้นตอนลงทะเบียน
-เลขบัตรประชาชน หรือเลขทะเบียนนิติบุคคล
-หมายเลขโทรศัพท์
-สถานที่ตั้งร้านค้า
-รูปถ่ายร้านค้า
-ประเภทสินค้า
เปิดให้ลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ
-ช่องทางออฟไลน์คือ ธนาคารของรัฐ / ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วม / สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร / อบต. / อบจ.
-ช่องทางออนไลน์คือ แอปพลิเคชันทางรัฐ ที่กำลังอยู่ระหว่างพัฒนา
สำหรับร้านค้าขนาดเล็กที่เป็นแฟรนไชส์เช่น ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านอาหารฟาสฟู้ดต่างๆ ยังสามารถเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้ โดยเงื่อนไขที่ห้ามร้านเข้าร่วมยังห้ามเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ตเช่นเดิม