Wealth Sharing
โบรกฯ แนะนำ 6 หุ้นพื้นฐานแกร่ง เข้าธีมสัญญาณฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย หลังจีดีพีไตรมาส 2/67 อาจโตกว่าคาด
10 กรกฎาคม 2567
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐในเดือนพฤษภาคมทำให้เชื่อว่า GDP ของไทยในไตรมาส 2/67 อาจแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้
![WS (เว็บ) โบรกฯ แนะนำ 6 หุ้นพื้นฐานแกร่ง_0.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/100724/WS%20%28%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%29%20%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%AF%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%206%20%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87_0.jpg)
โดยยอดเบิกจ่ายงบประมาณพุ่งสูงขึ้นถึง 121% จากปีก่อน เพราะรัฐบาล สามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ได้ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 67 เป็นต้นมา ในเบื้องต้น คาดว่าการใช้จ่ายภาครัฐที่แข็งแกร่งจะช่วยหนุนให้ GDP ไตรมาส 2/67 ขยายตัวใกล้ 2.5% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวในไตรมาส 1/67 ที่ 1.5%
ทั้งนี้ ประเมินว่านักลงทุนอาจจะมองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มหุ้น domestic plays ในเดือนสิงหาคมเนื่องจาก GDP ไตรมาส 2/67 อาจจะออกมาสูงกว่า consensus คาดที่ 1.8-1.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐพุ่งขึ้นอย่างมาก
ประกอบกับความชัดเจนจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคก้าวไกล และ สถานะของนายกเศรษฐาฯ และ ครม.รวมไปถึงการผลักดันมาตรการ digital wallet ให้ออกมาได้อย่างน้อยสำหรับคนไทยกลุ่มแรก 15 ล้านคน ทั้งนี้ราคาหุ้น domestic plays ส่วนใหญ่เทรดอยู่ที่ valuations น่าสนใจ และมองว่าเป็นจังหวะดีที่จะเข้าสะสมก่อนที่จะมีกระแสข่าวบวกในประเด็นต่างๆ ดังกล่าว
แนะ 6 หุ้นที่เข้าธีมสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
โดยเลือกหุ้นไทยตาม 4 ประเด็นเศรษฐกิจที่อาจชัดเจนขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ประการแรก การเติบโตของ GDP ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการสินเชื่อที่แข็งแกร่งขึ้นและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น (กลุ่มธนาคาร) ประการที่สอง สถานการณ์ NPLs ในภาคการเงินอาจถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 2/24 (กลุ่มไฟแนนซ์) ประการที่สาม การบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่งขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นและช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว (กลุ่มค้าปลีก) ประการที่สี่ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐฯ ที่น่าจะเร่งตัวในครึ่งหลังของปี (กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง)
BBL ธีมการลงทุนคือ credit cost ลดลงจากที่กำหนดไว้สูงเกินปกติจากกรณี ITD ในไตรมาส 1/67 และ ความสามารถในการขยายธุรกิจนอกประเทศไทย (ปัจจุบันคิดเป็น 15-20% ของกำไรสุทธิ) เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว
KTB ธีมการลงทุนคือ พอร์ตสินเชื่อขยายตัวตามนโยบายและกลยุทธ์ของรัฐบาล และ credit cost มีเสถียรภาพมากขึ้นสินเชื่อภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำ และสินเชื่อรายย่อยที่ผูกกับบัญชีเงินเดือนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ทำให้ความเสี่ยงด้าน credit cost ต่ำ
MTC ธีมการลงทุนคือ เน้นสินเชื่อยอดต่ำ และฐานลูกค้าที่กระจายตัวได้ดี รวมถึงใช้นโยบายการพิจารณาสินเชื่ออย่างระมัดระวังในการขยายสินเชื่อ และการติดตามหนี้
CPALL ธีมการลงทุนคือ ผลประกอบการมีแนวโน้มโดดเด่นในไตรมาส 4/67 (ไตรมาส 3/67 อาจจะยังไม่เด่นนัก) โดยไตรมาส 4/67 ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการเดินทางทั้งในประเทศและ ต่างประเทศรวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตัวสำคัญ (digital wallet) ที่อาจจะออกมา
CK ธีมการลงทุนคือ จะได้อานิสงส์เต็มที่จากการลงทุนภาครัฐที่พลิกเป็นขาขึ้นในช่วงปลายปี 67 เป็นต้นไป และ ปริมาณงานในมีน่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.00-2.50แสนล้านบาทภายในอีก6 เดือนข้างหน้านี้
CBG ธีมการลงทุนคือ รายได้เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจาก ฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/67 ซึ่งเป็นผลจากการบริหารสต็อกของดีลเลอร์ และผลการดำเนินงานของธุรกิจการจัดจำหน่ายสุราที่แข็งแกร่งจากการที่ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
![WS (เว็บ) โบรกฯ แนะนำ 6 หุ้นพื้นฐานแกร่ง_0.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/100724/WS%20%28%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%29%20%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%AF%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%206%20%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87_0.jpg)
โดยยอดเบิกจ่ายงบประมาณพุ่งสูงขึ้นถึง 121% จากปีก่อน เพราะรัฐบาล สามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ได้ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 67 เป็นต้นมา ในเบื้องต้น คาดว่าการใช้จ่ายภาครัฐที่แข็งแกร่งจะช่วยหนุนให้ GDP ไตรมาส 2/67 ขยายตัวใกล้ 2.5% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวในไตรมาส 1/67 ที่ 1.5%
ทั้งนี้ ประเมินว่านักลงทุนอาจจะมองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มหุ้น domestic plays ในเดือนสิงหาคมเนื่องจาก GDP ไตรมาส 2/67 อาจจะออกมาสูงกว่า consensus คาดที่ 1.8-1.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐพุ่งขึ้นอย่างมาก
ประกอบกับความชัดเจนจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคก้าวไกล และ สถานะของนายกเศรษฐาฯ และ ครม.รวมไปถึงการผลักดันมาตรการ digital wallet ให้ออกมาได้อย่างน้อยสำหรับคนไทยกลุ่มแรก 15 ล้านคน ทั้งนี้ราคาหุ้น domestic plays ส่วนใหญ่เทรดอยู่ที่ valuations น่าสนใจ และมองว่าเป็นจังหวะดีที่จะเข้าสะสมก่อนที่จะมีกระแสข่าวบวกในประเด็นต่างๆ ดังกล่าว
แนะ 6 หุ้นที่เข้าธีมสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
โดยเลือกหุ้นไทยตาม 4 ประเด็นเศรษฐกิจที่อาจชัดเจนขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ประการแรก การเติบโตของ GDP ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการสินเชื่อที่แข็งแกร่งขึ้นและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น (กลุ่มธนาคาร) ประการที่สอง สถานการณ์ NPLs ในภาคการเงินอาจถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 2/24 (กลุ่มไฟแนนซ์) ประการที่สาม การบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่งขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นและช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว (กลุ่มค้าปลีก) ประการที่สี่ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐฯ ที่น่าจะเร่งตัวในครึ่งหลังของปี (กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง)
BBL ธีมการลงทุนคือ credit cost ลดลงจากที่กำหนดไว้สูงเกินปกติจากกรณี ITD ในไตรมาส 1/67 และ ความสามารถในการขยายธุรกิจนอกประเทศไทย (ปัจจุบันคิดเป็น 15-20% ของกำไรสุทธิ) เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว
KTB ธีมการลงทุนคือ พอร์ตสินเชื่อขยายตัวตามนโยบายและกลยุทธ์ของรัฐบาล และ credit cost มีเสถียรภาพมากขึ้นสินเชื่อภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำ และสินเชื่อรายย่อยที่ผูกกับบัญชีเงินเดือนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ทำให้ความเสี่ยงด้าน credit cost ต่ำ
MTC ธีมการลงทุนคือ เน้นสินเชื่อยอดต่ำ และฐานลูกค้าที่กระจายตัวได้ดี รวมถึงใช้นโยบายการพิจารณาสินเชื่ออย่างระมัดระวังในการขยายสินเชื่อ และการติดตามหนี้
CPALL ธีมการลงทุนคือ ผลประกอบการมีแนวโน้มโดดเด่นในไตรมาส 4/67 (ไตรมาส 3/67 อาจจะยังไม่เด่นนัก) โดยไตรมาส 4/67 ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการเดินทางทั้งในประเทศและ ต่างประเทศรวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตัวสำคัญ (digital wallet) ที่อาจจะออกมา
CK ธีมการลงทุนคือ จะได้อานิสงส์เต็มที่จากการลงทุนภาครัฐที่พลิกเป็นขาขึ้นในช่วงปลายปี 67 เป็นต้นไป และ ปริมาณงานในมีน่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.00-2.50แสนล้านบาทภายในอีก6 เดือนข้างหน้านี้
CBG ธีมการลงทุนคือ รายได้เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจาก ฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/67 ซึ่งเป็นผลจากการบริหารสต็อกของดีลเลอร์ และผลการดำเนินงานของธุรกิจการจัดจำหน่ายสุราที่แข็งแกร่งจากการที่ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น