Talk of The Town
ตลท. เผยมูลค่าถือครองต่างชาติหุ้นไทยลด สอดคล้อง SET Index ที่ดัชนีดิ่ง 8.3% พบถือหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเป็น 847 หลักทรัพย์
10 กรกฎาคม 2567
ฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลนักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวม 4.73 ล้านล้านบาท ลดลง 7.4% จากสิ้นปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงในทิศทางเดียวกันกับภาพรวมของตลาด

โดย SET Index ลดลง 8.3% และจากการที่มูลค่าการถือครองหุ้นลดลงในสัดส่วนที่น้อยกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ลดลง ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาจาก 29.43% ณ สิ้นปี 2566 เป็น 29.62% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม
ขณะเดียวกัน ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2567 นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวม 847 หลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นสุทธิ 24 หลักทรัพย์ จากสิ้นปี 2566 จากการถือครองหุ้นของหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายใหม่ในช่วงที่ศึกษา 17 หลักทรัพย์ และจากการซื้อและถือครองหลักทรัพย์จดทะเบียนซื้อขายก่อนปี 2567 จำนวน 13 หลักทรัพย์
นอกจากนี้ หากพิจารณาผลกระทบของราคาหุ้น (Price Effect) และจำนวนหุ้น (Volume Effect) ต่อ มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ (Foreign Holding Value) พบว่า 80% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น
และอีก 20% เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นในการถือครอง อันเกิดจากกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การเข้าจดทะเบียนซื้อขายของหลักทรัพย์ใหม่, กิจกรรมซื้อขายหลักทรัพย์, กิจกรรม Corporate Actions และการระดมทุนในตลาดรอง ตลอดจนการเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เป็นต้น

โดย SET Index ลดลง 8.3% และจากการที่มูลค่าการถือครองหุ้นลดลงในสัดส่วนที่น้อยกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ลดลง ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาจาก 29.43% ณ สิ้นปี 2566 เป็น 29.62% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม
ขณะเดียวกัน ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2567 นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวม 847 หลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นสุทธิ 24 หลักทรัพย์ จากสิ้นปี 2566 จากการถือครองหุ้นของหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายใหม่ในช่วงที่ศึกษา 17 หลักทรัพย์ และจากการซื้อและถือครองหลักทรัพย์จดทะเบียนซื้อขายก่อนปี 2567 จำนวน 13 หลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกัน มูลค่าการถือครองหุ้นหายไป 6 หลักทรัพย์ จากหลักทรัพย์ที่ถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 2 หลักทรัพย์ และนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกไป 4 หลักทรัพย์
พร้อมกันนี้ เมื่อพิจารณาจากเปลี่ยนแปลงของมูลค่าการถือครองหุ้น ณ สิ้นปี 2566 และ ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2567 โดยจำแนกหลักทรัพย์ออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองทั้ง 2 จุดเวลา
2.หลักทรัพย์ที่ถูกเพิกถอนระหว่างช่วงเวลาที่ทำศึกษา 3. หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกระหว่างช่วงที่ทำการศึกษา 4.หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นจากหลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าซื้อขายใหม่ 5.หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองเพิ่มจากซื้อเพื่อถือครอง
ทั้งนี้ พบว่า มูลค่าการถือครองหุ้นที่เปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่มาจากหลักทรัพย์กลุ่มแรกที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหลักทรัพย์นั้นๆ ต่อเนื่องทั้ง 2 จุดเวลาที่ศึกษา ซึ่งหลักทรัพย์กลุ่มนี้มีมูลค่าถือครองหุ้นลดลง 387 พันล้านบาทจากสิ้นปี 2566นอกจากนี้ หากพิจารณาผลกระทบของราคาหุ้น (Price Effect) และจำนวนหุ้น (Volume Effect) ต่อ มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ (Foreign Holding Value) พบว่า 80% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น
และอีก 20% เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นในการถือครอง อันเกิดจากกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การเข้าจดทะเบียนซื้อขายของหลักทรัพย์ใหม่, กิจกรรมซื้อขายหลักทรัพย์, กิจกรรม Corporate Actions และการระดมทุนในตลาดรอง ตลอดจนการเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เป็นต้น
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
โบรกฯ คาดกลุ่มนิคมฯ-ชิ้นส่วนฯ วันนี้อาจฟื้นตัวแรง หลัง “ทรัมป์” เลื่อนขึ้นภาษี 90 วัน
%20copy_0.jpg)
3 หุ้นไทยรับปัจจัยบวก หลังศาลฯ มีคำสั่งห้าม “เนสท์เล่” ผลิต และจำหน่าย “เนสกาแฟ” ในไทย
%20copy_0.jpg)
เปิดชื่อหุ้น SET 100 อ่วม! รับพิษ Reciprocal tariff คาดกลุ่มนิคมฯ-อิเล็กฯ-โภคภัณฑ์ฟื้น
%20copy_0.jpg)
ทองเด้งแรง! วันนี้บวก 300 บาท ยืนเหนือระดับ 50,000 บาท จีน-สหรัฐ ตึงเครียด สงครามการค้า
%20copy_0.jpg)